โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" STEC ตุน Backlog เพียบหนุนผลงานปี 63 ลุ้นคว้าบิ๊กโปรเจ็คต์เสริมอัพไซด์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 4, 2020 15:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ขานรับผลประกอบการไตรมาส 4/62 เติบโตเกินคาด รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน Eastern และ Northern Bangkok Monorail ที่ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู และเงินลงทุนในบริษัทลูก แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ แต่เชื่อว่าในอนาคตกลับมาดีขึ้น หลังสิ้นสุดรับรู้โครงการที่มีมาร์จิ้นต่ำ เช่น รัฐสภาแห่งใหม่ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้ ก่อนทยอยรับรู้รายได้โครงการใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูง

นอกจากนี้ มีปริมาณงานในมือ (Backlog) สูงกว่า 9.1 หมื่นล้านบาท คาดหนุนรายได้ปีนี้เติบโต 12% แตะ 3.68 หมื่นล้านบาท พร้อมมองโอกาสคว้างานโครงการใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ได้แก่ โครงการสนามบินอู่ตะเภา โครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 โครงการรถไฟฟ้าสายม่วงใต้ มูลค่าหลายแสนล้านบาท ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนในปี 64 เป็นต้นไป

ช่วงบ่ายราคาหุ้น STEC อยู่ที่ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 1.95% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 0.25%

          โบรกเกอร์                        คำแนะนำ                 ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ทิสโก้                               ซื้อ                        22.00
          ฟินันเซีย ไซรัส                      ทยอยซื้อ                      23.00
          ทรีนีตี้                               ซื้อ                        23.00
          เอเชีย เวลท์                         ซื้อ                        20.00
          ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ                     ซื้อ                        21.00
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ                  ซื้อเก็งกำไร                    20.00
          หยวนต้า (ประเทศไทย)              ซื้อเก็งกำไร                    24.80

นายสุรชัย ประมวลกิจเจริญ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการ STEC ในปี 63 มีโอกาสเติบโตชัดเจน จุดเด่นคือ Backlog ที่มีสูงกว่า 9.1 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้รายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 12% มาอยู่ที่ 3.68 หมื่นล้านบาท

นอกจากนั้น ยังมีโอกาสได้รับงานใหม่ช่วยผลักดัน Backlog มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เช่น โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกมูลค่าโครงการ 2.9 แสนล้านบาท เป็นการรวมกลุ่ม BBS ประกอบด้วยบมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 45% ,บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) 35% และ STEC 20% ในเฟสแรกมีมูลค่างานก่อสร้าง 2-3 หมื่นล้านบาท นับเป็นอัพไซด์ใหม่ที่ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการในปัจจุบันที่กำหนดราคาพื้นฐานอยู่ที่ 20 บาท

"ปัจจุบันหุ้น STEC ซื้อขายบน Valuation ที่ถูกมีราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV )อยู่ที่ 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีอยู่ที่ 3.39 เท่า ขณะที่โครงสร้างทางการเงินที่ดี มีกระแสเงินสดในมือแข็งแกร่งและเงินลงทุนระยะสั้นสูงถึง 7.2 พันล้านบาท ดังนั้นในอนาคตกรณีมีงานใหม่เข้ามาเสริมช่วยเพิ่มอัพไซด์เชิงพื้นฐานให้กับราคาหุ้น STEC มากกว่าประมาณการในปัจจุบัน"นายสุรชัย กล่าว

นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า มีมุมมองเชิงบวกกับหุ้น STEC เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 4/62 มีกำไรสุทธิ 600 ล้านบาท เติบโตกว่าคาด จากส่วนแบ่งกำไรที่สูงจากเงินลงทุนใน Eastern และ Northern Bangkok Monorail ที่ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู และจากการลงทุนในบริษัทลูกอื่น ๆ ซึ่งหากไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ผลประกอบการไตรมาส4/62 จะอยู่ที่ 509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากงวดปีก่อน และ 51% จากไตรมาสก่อน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาอยู่ที่ 4.5% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 7.6% และไตรมาสก่อนหน้านี้ที่อยู่ระดับ 5.4% แต่เชื่อว่าแนวโน้มอัตรากำไรจะดีขึ้นในอนาคตหลังจากที่ทยอยรับรู้งานที่มีอัตรากำไรต่ำลดลง เช่น โครงการก่อสร้างรัฐสภาที่จะแล้วเสร็จในปี 63

นอกจากนี้ แม้ว่าการกฎหมายงบประมาณปี 63 จะมีผลบังคับใช้ล่าช้ากว่าคาด แต่ไม่ได้กระทบกับทิศทางการเติบโตผลประกอบการปี 63 เนื่องจากปริมาณงานในมือของ STEC มีสูงกว่า 8.7 หมื่นล้านบาทเพียงพอรับรู้รายได้ไปหลายเดือน ขณะที่ยังมีโอกาสได้รับงานโครงการใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นในอนาคต อาทิ โครงการสนามบินอู่ตะเภา ,รถไฟทางคู่เฟส 2, รถไฟฟ้าสายม่วงใต้ น่าจะมีความชัดเจนในปี 64 เป็นต้นไป

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ฝ่ายวิจัยฯปรับราคาพื้นฐาน STEC ขึ้นเป็น 23 บาท จากเดิม 21.50 บาท เนื่องจากปรับสมมติฐานกำไรปีนี้ขึ้นอีก 9% เป็น 1.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพราะงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพูอยู่ในช่วงกลางโครงการ ทำให้มีการรับรู้รายได้เป็นลักษณะ "s-curve"

ส่วนประเด็นความกังวลกรณีคดีรับเงินโรงไฟฟ้าขนอมรับรู้ไปมากแล้ว งานรัฐสภาใหม่คืบหน้า 70-80% คาดเสร็จปลายนี้ ไม่ต้องสำรองขาดทุนเพิ่ม และการประมูลใหม่ ๆ กำลังจะเริ่ม เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม รถทางคู่ รถไฟไทย-จีน เป็นต้น

บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า คาดว่า STEC จะได้รับงานในโครงการใหม่ที่เตรียมเข้าร่วมประมูลในปีนี้มูลค่าหลายแสนล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้มูลค่า 1 แสนล้านบาท , รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกมูลค่า 1 แสนล้านบาท ,รถไฟทางคู่เฟส 2 มูลค่าเกือบ 4 แสนล้านบาท ,โครงการอู่ตะเภา และโครงการอัพเกรดโรงกลั่นไทยออยล์ (CFP) ที่จะใช้เงินลงทุนร่วม 3 แสนล้านบาท ทั้งนี้ STEC ร่วมกับพันธมิตร ยื่นซองประมูลโครงการอู่ตะเภา หากในกรณีที่ดำเนินการเซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อย จะเป็นโครงการสำคัญที่จะทำให้ Backlog เพิ่มขึ้นอย่างนัยสำคัญ

ปัจจุบัน ฝ่ายวิจัยฯ กำหนดราคาพื้นฐานปีนี้ 23 บาท บนสมมติฐานการรับรู้รายได้เพิ่มจากโครงการงานก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 2 สายใหม่ แม้ว่าจะมีประเด็นเรื่องอัตรากำไรต่ำกดดัน แต่ด้วยปริมาณงานในมือ Backlog ที่แข็งแรงมาก จึงยังคงคำแนะนำ"ซื้อ"


แท็ก รถไฟฟ้า   bangkok   easter   (STEC)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ