(เพิ่มเติม) คมนาคม เคาะมาตรการช่วยสายการบินลดค่า Landing-ค่าจอด 50% ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 4, 2020 19:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้แทนสายการบินในประเทศไทยเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือสายการบินในประเทศ เนื่องจากผลกระทบสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ว่า ให้บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.และ กรมท่าอากาศยานปรับลดค่าธรรมเนียมการลงจอด (Landing) และ ค่าจอดเครื่องบินในทุกสนามบินลง 50% สำหรับสายการบินสัญชาติไทยที่บนเที่ยวบินในประเทศ และเส้นทางที่บินไป-กลับประเทศเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 31 ธ.ค. 63

รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น สะพานเทียบ (Aerobridge) และค่าเช่าพื้นที่สำนักงานเป็นเวลา 2 ปี โดยปีแรกลด 100% ส่วนปีที่ 2 ลด 50% เนื่องจากสายการบินประเมินว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่อเนื่องประมาณ 1 ปีครึ่งจึงจะกลับสู่ภาวะปกติ โดยจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในวันที่ 6 มี.ค.นี้

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ผู้ประกอบการสายการบินของไทย 7 แห่งได้ยื่นข้อเสนอขอให้ภาครัฐพิจารณายกเว้นและลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการดำเนินงาน เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้มอบหมายให้ นายพีระพล สุภถาวรเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมหารือกับ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กทพ.) หรือ CAAT กรมท่าอากาศยาน (ทย.) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) และ ทอท. และ สายการบินให้ได้ข้อสรุป เพื่อรายงานต่อ ครม.เศรษฐกิจรับทราบในวันที่ 6 มี.ค. ว่าแต่ละมาตรการต้องใช้วงเงินเท่าไร และมีส่วนที่ต้องรับการอุดหนุนจากรัฐบาลจำนวนเท่าไร

"นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ดูแลทุกคน ให้สามารถผ่านสถานการณ์โรคระบาด โควิด -19 ไปด้วยกัน หากเรื่องที่หน่วยงานสามารถช่วยเหลือได้ก็ให้ดำเนินการ โดยให้พิจารณาตัวเลขที่เหมาะสม โดยมาตรการที่หน่วยงานสามารถช่วยเหลือไม่กระทบต่อการดำเนินงานก็ให้ทำเอง ส่วนที่ช่วยเหลือแล้วกระทบต่อการบริหาร หรือต้องขอรับการสนับสนุนจากรัฐก็เสนอรัฐบาล เพราะ ทอท.อาจจะมีสภาพคล่องมากกว่า ทย."

จากข้อมูลพบว่า ช่วงวันที่ 1-20 ก.พ.63 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลง 35.2% ในประเทศ ลดลง 18.4% คิดเป็นจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงไป 2,548,729 คน โดยมีเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกรวม 7,879 เที่ยวบิน แบ่งเป็น ระหว่างประเทศ 6,960 เที่ยวบิน ,ในประเทศ 919 เที่ยวบิน ทำให้ต้นทุนต่อหนึ่งที่นั่งเพิ่มขึ้น 30-40 %

ทั้งนี้ หลังจาก ครม.ศก. เห็นชอบแล้ว ในส่วนของ ทย.จะต้องนำเสนอครม.อนุมัติ ส่วนทอท.และบวท. จะต้องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับบมจ. การบินไทย (THAI) และไทยสมายล์นั้น จะเข้าพบเพื่อหารือถึงมาตรการช่วยเหลือจากผลกระทบโรคไวรัสโควิด-19 ในวันที่ 5 มี.ค.

ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า ผลการประชุมร่วม 4 หน่วยงานและสายการบิน ได้ข้อสรุปมาตรการที่จะเสนอ ครม.เศรษฐกิจ โดย ทอท.และทย. จะลดค่า Landing fee และค่า Parking feeลง 50% ตั้งแต่ วันที่ 1 เม.ย. -31 ธ.ค.63 ให้สายการบินที่ทำการบินภายในประเทศ และ สายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิด-19 จำนวน 11 ประเทศ ในทวีปเอเชีย ได้แก่ จีน,ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้,สิงคโปร์,อิหร่าน ทวีปยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส,เยอรมัน,อิตาลี และเขตปกครองพิเศษ ได้แก่ ฮ่องกง,มาเก๊า,ไต้หวัน

ส่วน บวท.จะลดค่าบริการจราจรทางอากาศเที่ยวบินภายในประเทศ 50% เที่ยวบินระหว่างประเทศ 20% (ใน 11 เส้นทางที่ได้รับผลกระทบ) โดยได้รับส่วนลดทั้งสายการบินของไทย และสายการบินต่างประเทศ เนื่องจากไม่สามารถเลือกปฎิบัติได้ตามกฎขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

และ กทพ.ให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการเดินทางเข้าและออกนอกประเทศลง 5 บาทต่อผู้โดยสาร หรือจากเดิม 15 บาท เหลือ 10 บาท/ผู้โดยสาร1 คน สำหรับเส้นทาง 11 ประเทศ ที่ได้รับผลกระทบ และสนามบินต่างๆ จะพิจารณาลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มีผลต่อต้นทุนของสายการบินสัญชาติไทย ซึ่งจะรวมไปถึงค่าเช่าพื้นที่ภายในสนามบินด้วย ซึ่งจะเป็นอัตราเท่าไรขึ้นกับแต่ละสนามบิน

นอกจากนี้จะเสนอขยายลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันอากาศยานที่จะสิ้นสุด 30 ก.ย.ไปสิ้นสุดสิ้นปี 63 ในอัตราลดจาก 4.6726 บาท/ลิตร เหลือ 0.2 บาท/ ลิตร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ