(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นตามตลาดตปท.หลังหลายประเทศร่วมกันออกมาตรการกระตุ้นศก.บรรเทาผลกระทบโควิด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 5, 2020 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน เช่นเดียวกับดาวโจนส์ที่ปิดพุ่งขึ้นหลังจากมีรายงานว่า นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.นี้

นอกจากนี้ หลายประเทศมีความร่วมมือกันที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งก็เป็นบวกต่อตลาดฯ ส่วนบ้านเราก็น่าจะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นไป ทำให้พวก Commodity ดีขึ้น และภาครัฐฯก็เตรียมที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ซึ่งก็ให้น้ำหนักไปที่กองทุน SSF ที่จะมีการปรับเกณฑ์ให้เหมือนกับกองทุน LTF ที่ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุนได้ดี

พร้อมแนะนำให้ลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิด-19 อย่างหุ้นในกลุ่มโรงแรม โดยให้แนวรับ 1,366 จุด ส่วนแนวต้าน 1,393 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 มี.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,090.86 จุด พุ่งขึ้น 1,173.45 จุด (+4.53%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,130.12 จุด เพิ่มขึ้น 126.75 จุด (+4.22%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ ปิดที่ 9,018.09 จุด เพิ่มขึ้น 334.00 จุด (+3.85%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 299.81 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 24.48 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 126.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 62.30 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 18.78 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.04 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.41 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 31.76 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 มี.ค.63) 1,378.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด (+0.26%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,246.88 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 มี.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 มี.ค.63) ปิดที่ 46.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 มี.ค.) อยู่ที่ 0.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.43 อ่อนค่าจากวานนี้ หลังดอลล์แข็งรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีเกินคาด
  • คลัง งัดมาตรการอุ้มประชาชน-ภาคธุรกิจ สู้ภัย "โควิด-19" เล็งแจกเงินคนรายได้น้อย เน้นกลุ่มอาชีพอิสระ ครอบคลุมกว่า 10 ล้านคน เผยแจกมากกว่า 1 พันบาท พร้อมอัด "ซอฟท์โลน" ลุยปรับหนี้ ช่วยธุรกิจที่โดนผลกระทบ ด้าน "พิพัฒน์" เตรียมเสนอ ครม.เศรษฐกิจ ขอ 5 พันล้าน แจกเงิน "ไทยเที่ยวไทย" คนละ 1พันบาท ให้สิทธิ 5 ล้านคน ด้าน "เฟด" หั่นดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.5% หวังพยุงเศรษฐกิจสหรัฐ
  • ก.คมนาคม ชงเพิ่มงบ 4,000 ล้าน รื้อย้ายสาธารณูปโภครถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เข้า ครม.เศรษฐกิจ 6 มี.ค.นี้ เผยต้องเวนคืนพื้นที่เพิ่มอีก 3 จุด ช่วงข้ามแม่น้ำบางปะกง-อุโมงค์เขาชีจรรย์-ทางเข้าสนามบินอู่ตะเภา เพิ่มความกว้างจาก 25 ม. เป็น 40 ม. เพื่อวางเครื่องจักร
  • ก.ล.ต. ไฟเขียวตั้ง "เอสเอสเอฟ" แล้ว "17 กองทุน" ด้าน บลจ. เผยส่วนใหญ่ เน้นออก "กองหุ้น" เหตุมีประชาชนถามเข้ามามาก ขณะ "คลัง" เล็งผ่อนคลายเกณฑ์ "เอสเอสเอฟ" เพิ่ม จ่อให้สิทธิใกล้เคียง "แอลทีเอฟ" ย้ำแค่ชั่วคราว หวังพยุงหุ้นช่วงร่วงแรง
  • กนง. มองเฟดลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50% รับมือโควิด-19 เป็นมาตรการเหมาะสม คลังปล่อย ธปท.ตัดสินใจลดดอกเบี้ย ย้ำประสานงานใกล้ชิด ศูนย์วิจัยกสิกรคาด กนง.หั่นดอกเบี้ย 0.25%
  • นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แถลงภายหลังการประชุมว่า กกร.ปรับลดประมาณการอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ จีดีพี ปี 2563 ลดลงเหลือขยายตัวเพียง 1.5-2.0% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 2.0-2.5% ขณะที่ยังคงประมาณการการส่งออกและเงินเฟ้อไว้ตามเดิม -2% ถึง 0% การปรับลดจีดีพีต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 3 นี้ ถือเป็นครั้งแรกของ กกร.หลังจากที่ได้ทยอยปรับลดมาตั้งแต่เดือนม.ค.63 จากที่ปกติจะทำการประเมินในรอบทุกๆ 3 เดือน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPALL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 88 บาท เข้าสู่ Stage ของการกระตุ้นการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ วันศุกร์นี้คาดที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจเสนอมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และมาตรการบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ส่งผลดีต่อ Sentiment การลงทุนของหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ ค้าปลีก โดยเลือก CPALL เป็น Top pick ของกลุ่มค้าปลีก
  • STA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 14-16 บาท แนวโน้ม H1/63 สดใสทั้งธุรกิจยางธรรมชาติ (80% ของรายได้) เพราะปรับขึ้นทั้งราคาและปริมาณขาย และถุงมือยาง (20%) ขายดีมากจนต้องเพิ่มกำลังผลิตอีก 1 หมื่นล้านชิ้น/ปีเป็น 3.3 หมื่นล้านชิ้น/ปี เม.ย. นี้ แต่วัตถุดิบปรับขึ้นไม่มาก ด้านผลกระทบ COVID-19 น้อยมาก ไม่มีลูกค้าในอูฮั่น ส่วนใหญ่อยู่ในชิงเต่า ลูกค้าจีนสั่งปกติ ส่วนลูกค้าจีนในไทยสั่งมากขึ้นเพราะย้ายออเดอร์มาผลิตในไทยแทน ส่วนแนวโน้ม H2/63 ต้องติดตาม COVID-19 อีกที แต่เบื้องต้นคาดปีนี้พลิกเป็นกำไร 1.8-2 พันลบ. จากปีก่อนที่ขาดทุน 149 ลบ.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ