นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย)(SIS)เผยบาทแข็งหนุนเป้าหมายกำไรสุทธิปี 51 อัตราเติบโตสูงกว่ารายได้แม้ไม่มีรายการกำไรพิเศษเหมือนปีก่อน เน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง ขณะที่สินค้าที่อัตรากำไรขั้นต้นต่ำก็มีแนวโน้มยอดขายโตดี ด้านการรับเป็นตัวแทนขายให้ sandisk เจ้าตลาด memory card ระดับโลกปลายปีก่อนจะเห็นรายได้เต็มที่ในปีนี้ มองภาพรวมรายได้น่าจะเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมไอทีที่ปี 51 คาดว่าจะขยายตัวได้ในระดับ 10%
"กำไรสุทธิปีนี้มีปัจจัยบวกหลายด้าน โดยเฉพาะดอลลาร์ที่อ่อนลง ทำให้สินค้าราคาถูกลง บางครั้งเราไม่ได้ปรับราคาลดลง คือ price risk ยังเหมือนเดิม แต่ทุนลงไปแล้ว ก็ทำให้กำไรเพิ่ม...เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นปัจจัยบวก ส่งผลดีต่อเรา อย่างปี 50 ที่กำไรเราสูงขึ้นส่วนหนึ่งมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ยิ่งแข็งยิ่งดี"นายสมชัย กล่าว
ในปี 50 บริษัทมีกำไรสุทธิ 129.60 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 39.40% จากปี 49 เนื่องจากสภาพคล่องดีขึ้นจากการได้รับเงินค้ำประกันคืนจากธนาคารจำนวน 296 ล้านบาท และค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ทำให้ต้นทุนสินค้าลดลง โดยงวดปี 50 จ่ายปันผลสูงในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น เนื่องจากมีกำไรสูง โดยไตรมาส 4/50 ทำสถิติสูงสุดใหม่ถึง 41 ล้านบาท (+8%qoq +81%yoy)
นายสมชัย กล่าวว่า การเติบโตของกำไรสุทธิในปีนี้อัตราคงไม่สูงเท่าปีก่อนที่สูงเป็นพิเศษ โดยเติบโตถึง 39% เพราะไตรมาส 4/50 ได้รับคืนเงินฝากที่ติดภาระค้ำประกันไว้ 290 ล้านบาทคืนมาจากทางธนาคาร ช่วยทำให้สภาพคล่องดีขึ้น สามารถคืนเงินกู้บางส่วนและใช้ขยายธุรกิจได้คล่องตัวขึ้น ทำให้กำไรเพิ่มขึ้น เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องดอกเบี้ยลง
"ปีนี้อัตราการเติบโตอาจจะไม่ได้เท่านั้น แต่โดยทั่วไปเราพยายามจะ maintian กำไรให้เติบโตสูงกว่ายอดขาย จากปีที่แล้วสูงเป็นพิเศษแต่ปีนี้อาจจะไม่มีรายการพิเศษตรงนั้นเข้ามาแต่ยังเชื่อว่าจะทำได้ดีกว่ายอดขาย" นายสมชัย กล่าว
*ความนิยม PDA Phone-Notebook พุ่งดันยอดขาย
นายสมชัย กล่าวว่า อัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้จะสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมไอทีที่คาดว่าโตกว่า 10% จากปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 10,490 ล้านบาท โดยสินค้าไอทีที่มีการเติบโตสูง อย่างเช่น PDA Phone รวมทั้ง แฟลชไดร์ฟและเมมโมรีการ์ดที่รับแทนผู้แทนจำหน่ายของ sandisk จะรับรู้รายได้เต็มที่ในปีนี้ ขณะที่ computer notebook แม้จะกำไรขั้นต้นค่อนข้างน้อยแต่ความนิยมพุ่ง
โดยเฉพาะ PDA Phone คาดว่าจะโตขึ้นทุกปี ปีนี้น่าจะโตได้ 20% จากปีก่อนที่มียอดขาย 900 ล้านบาท ในแต่ละเดือนมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแต่ละเดือนมีการซื้อโทรศัพท์ใหม่ประมาณ 7 แสนเครื่อง ซึ่ง 80-90% เป็นการซื้อเครื่องใหม่ทดแทนเครื่องเก่าส่วนใหญ่ก็จะซื้อรุ่นที่ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ เชื่อว่าอีกระยะหนึ่งก็จะซื้อ PDA Phone ขณะที่ PDA Phone จะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าอัตราเฉลี่ยของบริษัทที่อยู่ในระดับ 5% หรือสูงกว่า 6%
"PDA Phone เรามีมาร์เก็ตแชร์ค่อนข้างสูงเกิน 50% ก็จะได้ผลพลอยได้จากตรงนี้ไปด้วย เพราะถ้าแบ่งสินค้าตามยอดขายกับการเติบโต ตัวนี้อยู่ในกลุ่มที่น่าสนใจมากเพราะมียอดขายสูงและเติบโตสูง เราค่อนข้างจะชอบสินค้าแบบนี้คือฐานใหญ่และเติบโตได้มาก"นายสมชัย กล่าว
ขณะที่ Computer Notebook มีสัดส่วนรายได้สูงถึง 25% ถึงแม้กำไรขั้นต้นค่อนข้างน้อย แต่มองว่ายังเติบโตได้ดีมากเพราะระยะหลังผู้ใช้คอมพิวเตอร์เปลี่ยนจาก desktop มาใช้ notebook กันมาก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ทำงานออฟฟิศ ผู้ที่เดินทาง นักเรียน และเมื่อรวมกับการใช้ wireless เชื่อมต่อ Notebook ที่สะดวกขึ้น สนับสนุนให้ยอดใช้ notebook สูงขึ้น ขณะที่ราคาไม่ต่างกับเครื่อง desktop แล้ว
"Notebook อาจจะทำกำไรค่อนข้างยากเพราะมีทางเลือกในตลาดสูง แข่งขันสูงระหว่างผู้ผลิตทำให้ราคาจะถูกตรึง กดดันให้กำไรน้อยไป แต่สินค้ารอบๆด้านพวกอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ พวกนี้มูลค่าต่ำแต่กำไรสูง เราจะมีวิธีจัดการกับสินค้ากลุ่มนี้อย่างไร ขณะที่ขายน้อยกว่าตัวเงินเล็กกว่าแต่กำไรสูง ถ้ามีการจัดการที่ดีก็จะทำให้กำไรทั้งหมดเพิ่มขึ้นได้ไม่ยาก"นายสมชัย กล่าว
*เป็นตัวแทนขาย sandisk ทำรายได้เต็มที่ในปีนี้
นายสมชัย กล่าวว่า Flash Memory/Memory Card เป็นสินค้าหลักของบริษัทอีกตัวหนึ่งที่มีอัตรากำไรดีกว่าค่าเฉลี่ย
โดยในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายยี่ห้อ Sandisk เต็มทั้งปี หลังจากที่เซ็นสัญญากันเมื่อปลายปีก่อน
"เราได้เป็นตัวแทนของยี่ห้อ Sandisk อันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเซ็นสัญญาไปตั้งแต่เดือน ธ.ค.50 คงจะมีผลในปีนี้ที่ทำให้เรามียอดขายที่ดีขึ้น แต่จะเป็นลักษณะค่อยๆเพิ่ม เพราะที่ผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาในตลาดต้องใช้เวลาเพื่อให้คนรู้จัก และไม่ได้เป็นยี่ห้อที่มีราคาถูกที่สุดจึงต้องใช้เวลา"นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย คาดว่า SIS จะมีส่วนแบ่งตลาด memory card ถึง 50% ในสิ้นปี 51 จากตลาดรวมเดือนละประมาณ 3.5 แสนชิ้น/เดือน เพราะเป็นยี่ห้อใหญ่ โดยจะค่อยๆ ขยับส่วนแบ่งตลาดขึ้นไป เน้นทำตลาดในกลุ่มโทรศัพท์มือถือที่สามารถใช้เป็นกล้องถ่ายภาพ ถ่ายวิดิโอ ฟังเพลง เพราะเป็นตลาดใหญ่น่าจะถึง 50% ของปัจจุบัน ซึ่งสามารถเพิ่ม Memory ได้
"ไตรมาส 1/51 ก็น้อยอยู่ อาจจะต้องใช้เวลา ไตรมาส 2 ก็ค่อยๆ ขยับขึ้นไป และตั้งเป้าว่าจะทำให้ได้ครึ่งหนึ่งของตลาดในไตรมาสที่ 4/51 สำหรับ Memory ที่เติมเข้าไปในโทรศัพท์"นายสมชัย กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/จำเนียร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--