AYF เปิดขายกองทุน FIF เน้นลงทุนใน 6 ประเทศอาเซียนเป็นหลัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 11, 2008 10:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อยุธยา (เอวายเอฟ) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนกองทุนเปิดอยุธยา อาเซียน เวียดนาม โฟกัส ในวันที่ 18-31 มีนาคม 2551 จำนวนเงินซื้อขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท โดยจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ในกองทุน CAAM Funds - ASEAN New Markets โดยมี Credit Agricole Asset Management (CAAM) เป็นผู้จัดการกองทุน ซึ่งนับเป็นผู้จัดการกองทุนที่ได้รับรางวัลมากมาย โดย เฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกฉียงใต้
เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตสูงถึง 9% ในปี 2008 (The Economist, 31 Jan 08) สำหรับผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (20 เม.ย.50) อยู่ที่ +20.22% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค.50) เทียบกับผลตอบแทน +22.44% ต่อปี ของดัชนี MSCI South East Asia (ดัชนีนี้ไม่รวมประเทศเวียดนาม)
สำหรับกลยุทธ์การเลือกลงทุนของกองทุนนี้ จะเลือกลงทุนใน 6 ประเทศที่อยู่ในอาเซียนเป็นหลัก โดยมีการลงทุนในประเทศที่อยู่ในอาเซียนในสัดส่วนที่มากกว่า 65% ของเงินลงทุน ซึ่งประกอบด้วย ประเทศเวียดนาม - มีอัตราการเจริญเติบโตโดยรวมสูงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาและยังคาดว่าจะเติบโตในระดับเกิน 6% ขึ้นไปในอีก 3-5 ปีข้างหน้าจากการวางโครงสร้างพื้นฐานและการเติบโตในภาคการลงทุนโดยตรงจากทั้งจากภายนอกและภายในประเทศ
ประเทศสิงคโปร์ — บริษัทมีการเติบโตกำไรที่มั่นคง รวมถึงโอกาสการเติบโตในโครงสร้างพื้นฐานภาคพลัง งาน supply chain และภาคการบริโภค, ประเทศมาเลเซีย — โอกาสสำหรับการลงทุนแบบ buttom-up สำหรับบริษัทที่มีการปรับโครงสร้างภาคการ ก่อสร้าง soft commodities และ M&A play
ประเทศอินโดนีเซีย — โอกาสการลงทุนในภาค soft commodities และโครงสร้างพื้นฐาน, ประเทศฟิลิปปินส์- ยังมีทรัพยากรณ์ธรรมชาติค่อนข้างมากที่สามารถนำมาพัฒนาประเทศในอนาคตอันใกล้ข้างหน้า จากการที่ราคา commodity มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประเทศไทย — สำหรับในแง่ valuations ยังเป็นโอกาสในการเลือกลงทุนแบบ buttom-up
นายฉัตรพี กล่าวต่อว่า ภาพรวมการลงทุนในขณะนี้ อาจจะดูไม่สดใสนักในระยะสั้น แต่ถ้าหากนักลงทุนที่มีประสบการณ์ในการลงทุนในตลาดหุ้นมายาวนาน ก็จะเห็นว่าในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดต่ำลงอย่างมาก แต่ในขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาวนั้นยังคงมีแนวโน้มที่จะยังเติบโตในระดับที่มั่นคงและต่อเนื่อง การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นก็จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ลงทุนระยะยาวในการที่จะได้เลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่ดีในราคาถูก ดังนั้นการปรับตัวลดลงของหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียนตั้งแต่ต้นปี 2551 ที่ผ่านมานี้นั้น น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการที่ผู้ลงทุนจะหันมาสนใจการลงทุนในกองทุนที่เน้นการลงทุนในภูมิภาคเอซียนนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ