นางสาววรรณา คลศรีชัย ประธานกรรมการบริหาร บมจ.พรีเมียร์ เทคโนโลยี (PT) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 63 จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,869.56 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของ 3 ธุรกิจหลัก คือ การบริการระยะยาว (Recurring), การบริการหลังการขาย (Non-Recurring) และบริการพื้นฐาน (On Premise) โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ราว 800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไปตามสัญญาที่มีตั้งแต่รายปี รายเดือน และรายไตรมาส
บริษัทวางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ของ Recurring และ Non-Recurring จากปี 62 ที่มีสัดส่วนรายได้จาก Recurring อยู่ที่ 31% และ Non-Recurring ราว 8% จากการหาลูกค้าใหม่ ๆ และการเจรจากับลูกค้าเดิมให้มาซื้อบริการเพิ่ม ขณะเดียวกันเตรียมเข้าไปรับงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และออกผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ เชื่อว่าจะช่วยหนุนรายได้ธุรกิจดังกล่าวเติบโตได้ตามแผน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เกิดขี้นนั้น บริษัทได้วางแผนเตรียมรับมือเอาไว้ทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพนักงาน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อใช้ดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้นแม้ปัจจุบันจะยังไม่มีความชัดเจนว่าจะกระทบต่อธุรกิจไอทีมากน้อยเพียงใด โดยยังต้องรออีกประมาณ 1 ไตรมาส ถึงจะประเมินได้
อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าบริษัทยังมีเสถียรภาพจากธุรกิจ Recurring ที่จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอตามสัญญาระยะยาว อีกทั้งยังมองเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นโอกาส และความท้าทายในเวลาเดียวกัน เนื่องจากลูกค้าจะมองหาระบบไอที หรือสินค้าและบริการที่มีมาตรฐานสูงขึ้น เช่น ระบบไอทีที่สามารถให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ หรือการซื้อของออนไลน์ เป็นต้น โดยถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบดีต่อบริษัท
ด้านระบบไอทีที่เข้าไปสนับสนุนเทคโนโลยี 5G ที่ผ่านมาก็มีโครงการที่ติดตั้งให้กับบริษัทเอกชนไปแล้ว และยังมีงานที่อยู่ระหว่างการติดตั้งอีกหลายโครงการ