นายสมพร มูลศรีแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการปี 63 จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 12,256 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,549 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้จะต้องมีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลอัตรา 20% เต็มปี หลังจาก BAM กลายสภาพจากรัฐวิสาหกิจที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าวมาเป็นสภาพบริษัทมหาชนจำกัด
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และปัญหาภัยแล้งเข้ามากระทบด้วย
สำหรับแผนการซื้อหนี้สินมาบริหารนั้นในปีนี้ บริษัทเตรียมซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จากสถาบันการเงินมาบริหารเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเงินมาจากกระแสเงินสดของบริษัทเป็นหลัก ขณะเดียวกันบริษัทยังศึกษาการออกหุ้นกู้เพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำอาจจะช่วยให้ต้นทุนทางการเงินต่ำลง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้
นายสมพร กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวในระดับต่ำและจะมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกมาขายในระบบสถาบันการเงินมากยิ่งขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ สถาบันการเงินในประเทศมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ในระดับที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับ การมีผลบังคับใช้กฎเกณฑ์ใหม่ทางบัญชี คาดว่าจะทำให้สถาบันการเงินหลายแห่งมีความจำเป็นต้องนำสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกมาประมูลออกมาประมูลขายให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ต่างๆมากขึ้น