นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้จะเติบโต 20-30% จากปีก่อนที่ราว 40,000 ล้านบาท โดยบริษัทเตรียมขยายสาขาใหม่ในปีนี้ 300-400 สาขา จากปีก่อนที่มีสาขาทั้งหมด 4,000 สาขา โดยจะใช้งบลงทุนราว 100,000-150,000 บาทต่อสาขา
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มองว่าเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะสั้น หากสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายก็จะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวเหมือนกับสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นทุกๆปี แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ส่งพนักงานเข้าไปติดตามพูดคุยกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความช่วยเหลือได้ทันทีหากลูกค้าเกิดปัญหา โดยหากจำเป็นบริษัทก็มีมาตรการช่วยเหลือด้วยการยืดระยะเวลาชำระหนี้หรือพักชำระหนี้ให้แก่ลูกค้า
อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าจะรักษาระดับสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ในระดับ 3-5% จากช่วงสิ้นปี 62 ที่ระดับ 3.83% ด้วยการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด และอาจจะมีการเรียกเก็บบางส่วนก่อนที่จะถึงระยะเวลากำหนดชำระค่างวด เพื่อที่จะให้ค่างวดช่วงครบกำหนดชำระไม่เป็นภาระมากเกินไป
"เราไม่ได้กังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 มากนัก เช่นเดียวกับสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น โดยมองว่าเป็นเพียงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นระยะสั้นเท่านั้น หากสถานการณ์ต่างๆผ่านไปก็จะช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ในขณะเดียวบกันลูกค้าของบริษัทยังกระจายไปทั่วประเทศด้วย"นางสาวธิดา กล่าว
นอกจากนี้ในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตร 2 ราย ได้แก่ กลุ่มบริษัท เจนเนอรราลี่ ไทยแลนด์ และบริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย เพื่อที่จะเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัย หลังจากที่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับใบอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยบริษัทคาดว่าจะมีรายได้ราว 200-300 ล้านบาทต่อปี
ส่วนมาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS9) นางสาวธิดา คาดว่าจะเป็นผลกระทบกับผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/63 เล็กน้อย โดยอาจจะส่งผลให้บริษัทต้องปรับเพิ่มสำรองเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เชื่อว่าผลประกอบการจะยังเติบโตได้