นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมทบทวนเพื่อปรับแผนการดำเนินงานปี 63 หลังจากสรุปผลประกอบการไตรมาส 2/63 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าจะมีผลกระทบต่อภาพรวมมากน้อยเพียงได
แต่อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นบริษัทได้จัดทำแผนเพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในข่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ภายใต้มาตรการ "SENA Zero COVID" โดยการศึกษาในกรณีที่อาจเกิดผลกระทบหากการแพร่ระบาดในประเทศไทยยกระดับขึ้นไปถึงระยะที่ 3 เหมือนกับในอิตาลี, เกาหลีใต้, อิหร่าน และจีน เป็นต้น
เบื้องต้นได้ศึกษาผลกระทบ 6 ข้อหลัก คือ 1. ในกลุ่มพนักงาน ทั้งในส่วนของความปลอดภัยของพนักงานเอง ซึ่งบริษัทจะให้ข้อมูลโควิด-19 แก่พนักงาน และบริษัทมีสายด่วนให้คำปรึกษาสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว 2.ในกลุ่มลูกค้า ซึ่งลูกค้าบางกลุ่มอยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาจจะได้รับผลกระทบจนไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่ซื้อไว้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
3.ในกลุ่มซัพพลายเชน (Supply Chain) คือกลุ่มห่วงโซ่ของกระบวนการทั้งหมด ซึ่งอาจจะกระทบการก่อสร้างให้ล่าช้าลง 4.ในกลุ่มช่องทางการจำหน่าย จะต้องศึกษาและหาช่องทางที่เหมาะสม, 5.แผนการลงทุนในปีนี้อาจต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และ 6.แผนการดำเนินงานในอนาคต หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย เพราะหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จบลง ยังต้องใช้ระยะเวลาเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
นางสาวเกษรา กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังคงแผนการดำเนินงานปี 63 กำหนดเป้าหมายยอดขาย (Presale) รวมไว้ที่ 11,500 ล้านบาท และแผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,500 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 10,600 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 1,717 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมที่ 8,870 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนประมาณ 5,500 ล้านบาท ที่SENA จะรับรู้กำไรตามสัดส่วนถือหุ้น ส่วนที่เหลือประมาณ 3,370 ล้านบาทเป็นการส่งมอบโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่ากว่า 11,841 ล้านบาทจะทยอยรับรู้ในปี 63 ประมาณ 6,924 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 60-70% ของเป้าหมายรายได้ ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปีถัดไป