นายรักษ์พงศ์ อรุณวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบัญชีและงบประมาณ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ. 63) ยังเห็นการติดลบมาต่อเนื่อง จากไตรมาส 4/62 SSG ติดลบ 3% จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัวมาต่อเนื่องจากปีก่อนส่งผลต่อกำลังซื้อของลูกค้าที่ชะลอตัวลงไป และยังมีปัจจัยกดันจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เข้ามากระทบต่อการเข้ามาใช้บริการและจับจ่ายใช้สอย ซึ่งเริ่มเห็นจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการชะลอตัวลงมาตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา
ผลกระทบจากปัจจัยกดดันที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทยังไม่สามารถประมาณการยอดขายในปี 63 ได้ เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่แน่นอน และไม่ทราบว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ซึ่งต้องติดตามจนกว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลาย ทำให้ในช่วงนี้บริษัทหันมาเน้นการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่กังวลการมาซื้อของที่สาขาจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เห็นการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จากพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงนี้ ซึ่งบริษัทได้มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อมาชดเชยกับยอดขายของสาขาที่ได้รับผลกระทบ และเพิ่มประสิทธิภาพของบริการจัดส่งภายในวันเดียวให้ดีและครอบคลุมพื้นที่ต่างๆมากขึ้น ประกอบกับใช้แพลตฟอร์ม Omni Channel อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถมารับสินค้าที่สาขาได้ โดยที่ในปีนี้บริษัทคาดว่าสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.5-2% จากปีก่อนที่ 1%
นอกจากนั้น ในภาวะที่มีปัจจัยกดดันกระทบต่อธุรกิจบริษัทได้มองไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในบริษัทให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการบริหารจัดการคลังสินค้า และการขนส่งสินค้า รวมถึงการลดต้นทุนต่างๆลง โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน เพื่อทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้น แม้ว่ายอดขายอาจจะชะลอตัว ประกอบกับมีการวางแผนสั่งซื้อ ส่งมอบ และสต๊อกสินค้าล่วงหน้า โดยเฉพาะสินค้า Private Brand ของบริษัท ให้สามารถรองรับกับความต้องการซื้อของลูกค้าได้ เพื่อไม่ให้เกิดการเสียโอกาสในการขายสินค้า
ส่วนการจัดงาน HOMEPRO EXPO ในช่วงเดือนมี.ค.นี้ บริษัทได้ตัดสินใจเลื่อนการจัดงานออกไปจากไวรัสโควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดอยู่ และรอติดตามสถานการร์ว่าจะเป็นอย่างไร หากสถานการณ์มีการคลี่คลายได้เร็วบริษัทจะพิจารณาจัดงานอีกครั้งในช่วงไตรมาส 2/63
นางสาววรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านบัญชีและการเงิน HMPRO กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 3-5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้รองรับการขยายสาขาใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ที่จะเปิดอีก 5 สาขา ได้แก่ โฮมโปร 2 สาขา โฮมโปร เอส 1 สาขา เมก้า โฮม 1 สาขา และโฮมโปร มาเลเซีย 1 สาขา
ขณะเดียวกันบริษัทจะมีการพิจารณาออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุในปีนี้วงเงินรวม 6 พันล้านบาท ซึ่งจะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุ 2 ชุด ในช่วงเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ และปลายปี 63 ซึ่งการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมจะทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำ ทำให้การออกหุ้นกู้ชุดใหม่จะมีอัตราดกเบี้ยที่ลดลงตามทิศทางดอกเบี้ยที่ต่ำในปัจจุบัน