นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวลงต่อ และมีความเสี่ยงจะใช้มาตรการหยุดพักซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) อีกรอบหากดัชนีฯร่วง 10% ใกล้บริเวณระดับ 1,000 จุด ซึ่งเป็นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลงใกล้ 10% และเช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียลงมาราว 5-9% จากความกังวลการแพร่ระบาดไวัสโควิด-19 ลุกลามหนักส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังกับผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการทำ QE ก็มองว่าวงเงินต่ำเกินไป ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐฯก็ยังไม่ชัดเจน รอบด้านมีแต่ปัจจัยลบ หลังจากมีการระงับการเดินทางระหว่างสหรัฐฯและยุโรป รวมถึงงดทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย ทำให้มองสถานการณ์ไม่ดี และยังไม่อาจรู้ได้กว่าจะใช้เวลานานเท่าใดที่จะควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ เพราะมีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก ทำให้ตัวแปรหลายอย่างไม่นิ่ง และพัฒนาการแย่ลง หลายคนจึงเลือกจะลดความเสี่ยงและหันไปถือเงินสด
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,000-1,050 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 มี.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,200.62 จุด ดิ่งลง 2,352.60 จุด (-9.99%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,480.64 จุด ลดลง 260.74 จุด (-9.51%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,201.80 จุด ลดลง 750.25 จุด (-9.43%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 376.16 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 111.65 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 1,789.75 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 119.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 123.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 331.29 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 55.67 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 373.35 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 มี.ค.63) 1,114.91 จุด ลดลง 134.98 จุด (-10.80%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,939.57 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 มี.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 มี.ค.63) ปิดที่ 31.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.48 ดอลลาร์ หรือ 4.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 มี.ค.) อยู่ที่ 1.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.94/98 มีโอกาสอ่อนค่าแตะ 32 ยังวิตกโควิด-19 ให้กรอบ 31.85-32.10
- องค์การอนามัยโลก ยกระดับโควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก หลังลาม 118 ประเทศ ยอดติดเชื้อรายใหม่ในมณฑลหูเป่ย์ของจีนลดเหลือเลขหลักเดียวเป็นครั้งแรก ไทยพบผู้ป่วยเพิ่ม 11 รายกลุ่มก้อนครั้งแรกติดจากคนฮ่องกงหลังสังสรรค์กลุ่มเพื่อนใกล้ชิด ย้ำไม่ใช่ "ซุปเปอร์ สเปรดเดอร์" นายกฯยันยังไม่ถึงระยะ 3 พร้อมตั้ง 23 คน 6 ทีมบริหารสถานการณ์ครบวงจร
- สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยเวลานี้ เรียกว่าเข้าสู่ขั้น"วิกฤติ"นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(12 มี.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงมาแล้ว 464.93 จุด จากระดับ 1,579.84 จุด ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับ 1,114.91 จุด หรือลดลง 29.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี ขณะที่ในช่วงสัปดาห์นี้ (9-12 มี.ค.2563) เพียงสัปดาห์เดียวดัชนีหุ้นไทยดิ่งลงกว่า 249.66 จุด หรือ 18.3%
- นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาทออกมาตรการเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน และเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ ประกอบด้วย มาตรการช่วยเหลือบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ โดยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทที่มอบหมายให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ เป็นนายทะเบียน ได้แก่ บริษัทจดทะเบียน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน โดยลดค่าธรรมเนียมนายทะเบียนรายปี 20% ในปี 63 ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายของธุรกิจลดลง
- กฟผ.เสนอแผนนำเข้า LNG ล็อตใหม่ ช่วงปี 63-65 ลดต้นทุนเชื้อเพลิงค่าไฟ 1,600 ล้านบาท และลดต้นทุนค่าเอฟที 0.86 สตางค์ต่อหน่วย
- กกพ.เคาะตรึงค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค.63 ควักเงิน 5.1 พันล้านบาทอุดหนุน หลังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย หวังช่วยลดค่าไฟภาคธุรกิจ และค่าครองชีพพี่น้องประชาชน พร้อมถก 2 การไฟฟ้าดึงเงินลดค่าไฟเพิ่มอีกช่วง 3 เดือนตามมติ ครม. พร้อมจ่อคืนเงินประกันค่ามิเตอร์ ลั่นจ่ายแน่กลุ่มแรกงวด มี.ค.นี้
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับลดประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปี 63 ลงจากเดิมขยายตัว 2.8% เหลือ 1.1% จากผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่มีผลต่อภาคการเกษตร, ความล่าช้าการเบิกจ่ายงบลงทุนและปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ทำให้เศรษฐกิจไทยเสียหายรวม 841,498 ล้านบาท และมีผลต่อแรงงานที่เกี่ยวข้องกว่า 2.3 ล้านคน มีทั้งบริษัทเลิกจ้าง, ลดการทำงานโอที, ลดชั่วโมงการทำงานหรือหยุดงานชั่วคราว เป็นต้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (กรุงศรี) แนะนำ"ซื้อ"เป้า IAA Consensus 88 บาท คาดได้ประโยชน์มากสุดจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐ (คืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า 21 ล้านครัวเรือนมูลค่า 30,000 ล้านบาท) เนื่องจากมีสาขากระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ
- GUNKUL (กสิกรไทย) แนะนำ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.48 บาท ผู้บริหารตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 63 สูงกว่า 25% จากการขยายกำลังการผลิตในธุรกิจโรงไฟฟ้า และการกระตุ้นธุรกิจ EPC ตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตระยะยาวที่ 1,000MW ภายในปี 65 ด้วยการมุ่งเน้นโครงการ solar rooftop ในไทยและ wind farm ในเวียดนาม