ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าแกว่งตัวผันผวนรุงแรง รับแรงซื้อกลับหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาร่วงลงไปหนัก หลังจากดัชนีดีดตัวมายืนเหนือ 1,000 จุดได้หลังจากนั้นดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วผลักดันให้ดัชนีมายืนในแดนบวก ต่อมารัยแรงขายทำกำไรกดดันดัชนีลงไปยืนในแดนลบอีกครั้งในช่วงท้ายตลาด
เมื่อเวลา 12.06 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,155.30 จุด เพิ่มขึ้น 45.16 จุด (+4.05%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.25 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,094.14 จุด ลดลง 20.77 จุด (-1.86%)
นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) เปิดเผยว่า แม้ว่าในช่วงเช้าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเกิดสัญญาณเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากเปิดตลาดช่วงเช้าปรับตัวลดลงรุนแรงหลุด 1,000 จุด แต่ยังผันผวนรุนแรง
การรีบาวด์เกิดจากนักลงทุนคาดหวังมาตรการเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มสภาพคล่องในระบบ อาทิ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตรียมอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจำนวนกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ,ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ใช้มาตรการเข้าซื้อพันธบัตรจำนวนกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับรัฐบาลและหน่วยงานตลาดทุนในไทยมีแผนใช้มาตรการเข้ามาดูแลตลาดหุ้น อาทิ กองทุนพยุงหุ้น เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวัง เพราะบรรยากาศลงทุนยังมีความผันผวนมาก ควรแบ่งเงินลงทุนเป็น 3 ไม้ ไม้แรกรอซื้อ 1,100 จุด ,ไม้สองรอซื้อ 1,000 จุด และไม้ที่สามรอซื้อแถว 870-900 จุด
"ถ้านับตั้งแต่จุดสูงสุดของตลาดหุ้นไทย 1,850 จุดก่อนไหลลงมาทำจุดต่ำสุดรอบนี้ 970 จุด เป็นการลงมาเกือบ 50% แล้วใกล้เคียงกับช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเจอกับวิกฤตในอดีต อาจมีแรงซื้อคืนมาบ้าง แต่นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการเก็งกำไรระยะสั้นเช่นกัน"นายเอกภาวิน กล่าว