นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล (MOONG) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายของบริษัทในช่วง 2 เดือนแรกของปี 63 (ม.ค.-ก.พ. 63) ติดลบไม่เกิน 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยกดดันที่มาจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว เนื่องจากภาวะเศราฐกิจชะลอตัว ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้ประชาชนไม่มั่นใจในการออกจากบ้านมาจับจ่ายใช้สอย ทำให้ยอดขายของบริษัทในช่วง 2 เดือนแรกเกิดการชะลอตัวลง ซึ่งเป็นไปตามภาวะของอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตามยังคงมีสินค้าบางประเภทที่มียอดขายที่ดีขึ้นในช่วงนี้ เช่น สินค้าในกลุ่มผ้าเปียก ที่ปัจจุบันมีความต้องการซื้อจากลูกค้าเข้ามามาก ทำให้บริษัทจะต้องมีการบริหารจัดการสต็อกสินค้าในกลุ่มดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงนี้ เพื่อรองรับความต้องการซื้อของลูกค้า ขณะที่สินค้าในกลุ่มแม่และเด็กบางประเภทอาจจะมีการชะลอตัวลงไป จากการชะลอการซื้อของลูกค้าในสินค้าบางรายการในช่วงนี้
โดยที่การปรับกลยุทธ์การขายของบริษัทในช่วงนี้บริษัทจะเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงมีการขายที่ควบคู่ไปกับพันธมิตรร้านค้าของบริษัทต่างๆ ซึ่งในส่วนของแพลตฟอร์มการขายของบริษัทที่มาจากเว็บไซต์ของบริษัทเองแล้ว บริษัทยังเตรียมขยายช่องทางการขายผ่าน E-market Place ทาง Shopee และ Lazada ซึ่งจะเริ่มการขายผ่าน Shopee ในเร็วนี้ โดยที่บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มเป็น 1% จากปัจจุบันมีอยู่น้อยมาก
นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเมียนมา ที่บริษัทจะมีการขยายสาขาในเมียนมาเพิ่มเติมในปีนี้ ขณะที่ตลาดในลาวยังมีการขยายอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ยอดขายในลาวยังเห็นการเติบโตได้อย่างดีเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่ม CLMV และเป็นประเทศที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งในปี 63 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายส่งออกเพิ่มเป็น 3% จากปีก่อนที่ 1.7%
ส่วนแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ยังอยู่ระหว่างดูสถานการณ์ของตลาดว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหากภาวะต่างๆเริ่มคลี่คลายแล้วบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) และยังมีการศึกษาเพื่อซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเข้ามาเสริมศักยภาพของธุรกิจ ซึ่งบริษัทมีดีลที่สนใจอยู่ แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ และเตรียมที่จะเสนอขออมุมัติผู้ถือหุ้นในการเพิ่มทุน หากบริษัทมีดีลการซื้อกิจการที่เข้ามาสนับสนุนธุรกิจเพิ่มเติมในปีนี้ เพื่อเป็นหนึ่งทางเลือกในด้านของแหล่งเงินทุนที่จะมารองรับ
ทั้งนี้จากภาพรวมของเศรษฐกิจและปัจจัยกดดันต่างๆที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทยังไม่สามารถคาดการณ์แนวโน้มของยอดขายในปีนี้ได้แน่นอนว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะยังต้องรอสถานการณ์ต่างๆคลี่คลายก่อน ถึงจะวางแผนทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ที่แน่นอนได้อีกครั้ง แต่บริษัทจะหันมาเน้นการควบต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรักษาการทำกำไรให้ไม่ลดลงจากปีก่อน