ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายพลิกกลับมาปรับขึ้นมากกว่า 30 จุด หลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเตรียมชงการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นเสนอนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศปรับเกณฑ์การขายชอร์ตเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งเตรียมพิจารณามาตรการอื่น ๆ ตามมา
เมื่อเวลา 14.27 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,137.28 จุด เพิ่มขึ้น 22.37 จุด (+2.01%)
จากนั้นเมื่อเวลา 15.04 น. ดัชนี SET ขยับมาที่ 1,148.36 จุด เพิ่มขึ้น 33.45 จุด (+3.00%)
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้เปิดมาพลิกเป็นบวกได้กว่า 20 จุด คาดว่าจะตอบรับเรื่องที่ตลท.ปรับปรุงเกณฑ์การขายชอร์ตเพื่อใช้เป็นการชั่วคราว จากเดิมที่กำหนดให้สมาชิกจะขายชอร์ตได้เฉพาะในราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (last trading price) เป็น จะขายชอร์ตได้เฉพาะในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (last trading price) เท่านั้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่การซื้อขายในภาคบ่ายของวันนี้ (13 มี.ค.) เป็นต้นไป ซึ่งตรงนี้มองว่าช่วงลดความผันผวนของตลาดฯได้ จากที่นักลงทุนจะทำขายชอร์ตได้ยากขึ้น รวมถึงธุรกรรมที่เชื่อมโยงก็ทำได้ยากขึ้น ซึ่งทำให้ตัวเร่งให้ตลาดฯ ปรับตัวลงผิดปกติหรือแรงเกินไปจะหายไป
อย่างไรก็ดี ตลาดอาจจะผันผวนบ้างในช่วงบ่ายนี้ เพราะต้องมีการเคลียร์ Position จากที่นักลงทุนที่เข้าซื้อตอนดัชนีฯ ลงไปแถว 950 จุด จะได้กำไรมาก ดังนั้นอาจจะมีการขายทำกำไรออกมา ทำให้ตลาดฯอาจจะยังผันผวนอยู่
สำหรับเรื่องการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นนั้น นายณัฐพล กล่าวว่า ขนาดของกองทุนน่าจะไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งได้มีการตั้งกองทุนด้วยวงเงิน 30,000 ล้านบาท แต่ตอนนี้ขนาดของตลาดใหญ่ขึ้น จึงคาดว่าจะตั้งกองทุนขนาดใหญ่กว่าในอดีต
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียบ่ายนี้ติดลบน้อยลงหลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปหนัก เฉลี่ยราว 1-2% ขณะที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สพลิกเป็นบวกได้ราว 800 จุด ซึ่งก็คงจะเป็นเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังร่วงไปมาก อีกทั้งสัปดาห์หน้ายังจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ด้วยที่จะต้องติดตามดู และยังมีข่าวบริษัทยาในแคนาดาได้คิดค้นวัคซีนรักษาไวรัสโควิด-19 โดยกำลังจะมาทดสอบกับคน
พร้อมให้แนวรับ 1,100 จุด ส่วนแนวต้าน 1,150 จุด