บมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่(PRANDA)ปรับกลยุทธ์หนียุคทองคำแพงฉุดยอดขาย เปลี่ยนมาใช้โลหะเงินเป็นวัสดุหลักทำเครื่องประดับ คาดปี 51 ยังน่าจะทำรายได้ตามเป้าหมาย 4.6 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนประมาณ 8% แม้ว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงและบาทแข็ง ในส่วนของอัตรากำไรสุทธิคาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 10% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 30-35%
ปัจจุบัน PRANDAปรับลดการใช้ทองคำเป็นวัตถุดิบเหลือเพียง 40% จากเดิม 60% ขณะที่ใช้เงินเป็นวัตถุดิบมากขึ้นเป็น 60% จากเดิม 40% ซึ่งจากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนสินค้าลดลง และยังเป็นแรงจูงใจให้กับลูกค้าในด้านราคาขายที่ลดลงด้วย
"การที่ราคาทองขึ้น ทำให้เราต้องหาวิธีในการลดต้นทุนและผลิตในจำนวนชิ้นที่มากขึ้นแทน และการที่เราส่งออกเป็นหลักย่อมจะกระทบบ้างกับปัญหาค่าเงินที่แข็งค่า แต่เราก็สามารถปรับขึ้นราคาตามวัตถุดิบ และที่ผ่านมาก็ปรับทุก 3 เดือน อีกทั้งยังมีการ forward และ Hedging ไว้ด้วย และบางประเทศก็ขายสกุลอื่นแทนดอลลาร์"นางประพีร์ สรไกรกิติกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ PRANDA กล่าว
สำหรับในไตรมาส 1/51 นางประพีร์ คาดว่า รายได้และกำไรจะดีกว่าไตรมาส 1/50 เนื่องจากบริษัทมีฐานจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในต่างประเทศที่บริษัทเข้าไปลงทุนเปิดเฟรนไชส์ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงและยังทำให้การผลิตได้มากขึ้น โดยในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาจากจีนและอินเดีย หลังจากที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนในปีก่อน
และในปีนี้จะมีการเพิ่มการส่งออกในต่างประเทศมากขึ้น อาทิ รัสเซีย ฮังการี เยอรมันตะวันออก
ขณะที่งบลงทุนปีนี้ คาดว่าจะใช้งบ 150 ล้านบาท ในการประชาสัมพันธ์แบรนด์ และงบลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทย่อยอื่นๆ
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--