นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) หรือโออาร์ เปิดเผยว่า ปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศเริ่มเห็นการชะลอตัวชัดเจนตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ที่ปริมาณการขายทรงตัว หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และหากการแพร่ระบาดในไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 ก็อาจจะทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี จากเดิมที่คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันของไทยในปีนี้จะเติบโตได้ราว 3% ขณะที่การใช้น้ำมันของไทยเคยทำสถิติร่วงติดต่อกัน 2 ปีในช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ปี 51-52
สำหรับยอดขายน้ำมันของโออาร์ ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.63 ยังขยายตัว 1-2% เนื่องจากมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันราว 1,900 แห่ง ซึ่งหากไม่มีสถานีบริการน้ำมันเปิดใหม่ก็เชื่อว่าอาจจะทำให้ยอดขายในเดือนก.พ.ไม่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินทางลดลง ซึ่งโออาร์ได้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง และตั้งสมมุติฐานหลายระดับ เพื่อปรับตัว โดยเฉพาะการบริหารสต็อกให้เกิดการขาดทุนน้อยที่สุด
ทั้งนี้ โออาร์ได้เตรียมเปิดจำหน่ายน้ำมันสูตรใหม่ทั้งเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ภายในเดือนมี.ค.นี้ในทุกสถานีบริการน้ำมันของพีทีทีสเตชั่น ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงสูตรครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยได้พัฒนาใส่สารเติมแต่งเข้มข้นขึ้น ช่วยเพิ่มการชะล้าง ป้องกันการกัดกร่อนได้ดีขึ้น ส่งผลเครื่องยนต์แรงขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทจึงไม่จัดแคมเปญใหญ่เพื่อเปิดตัว
โออาร์ได้ติดตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกและปรับราคาให้สะท้อนต้นทุนมากที่สุด โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับลดราคาน้ำมันติดติดกัน 5 วันรวด ซึ่งค่าการตลาดก็ยังอยู่ระดับสูง บริษัทก็กำลังพิจารณาจะปรับลดราคาอย่างต่อเนื่อง และยังหาทางช่วยดีลเลอร์ที่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้ลดผลกระทบการขาดทุนจากราคาที่ลดลงทุกวัน ด้วยการลดราคาน้ำมันจากคลังของโออาร์ทันทีในวันที่ประกาศราคาล่วงหน้า อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ก็ทำให้กลุ่มธุรกิจน้ำมันโดยรวมจะมีปัญหาขาดทุนสต็อกน้ำมันได้ในช่วงไตรมาส 1/63