นายณัทธร กิจสำเร็จ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.อมตะ วีเอ็น (AMATAV) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 63 เติบโตเป็นไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 710 ล้านบาท โดยคาดจะมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ Commercial Area ของอมตะ ซิตี้ เบียนหัว ในปีนี้ราว 2-4 เฮกตาร์ จากพื้นที่ที่เซ็นสัญญาทั้งหมด 12 เฮกตาร์ และคาดรับรู้รายได้บางส่วนในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ลองถั่น ที่ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 20 เฮกตาร์ และมียอดโอนที่ 5-6 เฮกตาร์ รวมถึงอมตะซิตี้ ฮาลอง ตั้งเป้ามียอดขายและยอดโอนที่ 20 เฮกตาร์ อย่างไรก็ตามการรับรู้รายได้ทั้งสองโครงการดังกล่าวคาดจะเข้ามาในครึ่งปีหลังนี้
ทั้งนี้ บริษัทยังมีรายได้จากการบริการด้านสาธารณูปโภค และรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเตรียมบันทึกกำไรจากการขายหุ้นของ Amata City Long Thanh Joint Stock Company (ACLT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย Amata Service City Long Thanh 1 Company Limited (ASCLT 1) และ Amata Service City Long Thanh 2 Company Limited (ASCLT 2) ในสัดส่วน 49% ให้แก่ Nova Rivergate Company Limited และ Nha Rong Investment & Commercial Joint Stock Company ตามลำดับ เข้ามาภายในปีนี้
สำหรับยอดขายที่ดินในเวียดนาม ปัจจุบันยอมรับว่ายังติดปัญหาการพัฒนาที่ดินไม่ทันการโอนในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ในช่วงนี้อาจจะยังไม่เห็นการโอนที่ดินเข้ามา รวมถึงปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า บางรายเลื่อนการลงทุนออกไป ซึ่งบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และได้มีการวางแผนรองรับ โดยจะหันมามุ่งเน้นลูกค้าในเวียดนาม หรือลูกค้าที่มีการเจรจากันมานานแล้วให้สามารถสรุปดีลได้
"ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ เรื่องของโควิด-19 ที่เป็นเรื่องของระยะเวลา ขณะที่ภาพใหญ่ในเชิงของดีมานด์และซัพพลาย ยังไม่เห็น Impact แต่อาจจะกระทบบ้างในแง่ของลูกค้าจะต้องทำการศึกษาก่อนลงทุน ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ก็น่าจะ delay ออกไปบ้าง โดยเราก็เตรียมแผนไว้เหมือนกัน เช่น เน้นลูกค้าเวียดนาม หรือลูกค้าที่มีการดูที่กันมาแล้ว ว่าจะจบกับเขาอย่างไร"นายณัทธร กล่าว
ขณะที่ปีนี้บริษัทยังวางงบลงทุนไว้ที่ 3,000 ล้านบาท โดยจะมาจากเงินกู้บางส่วน