"วีระ"เล็งทางนั่งเอ็มดี METRO เต็มตัว หยุดกระแสสับสน-เดินหน้ากองทุนอสังหาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 12, 2008 13:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวีระ บูรพชัยศรี ประธานกรรมการบริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่บมจ.เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้(METRO)ยืดอกนั่งรักษาการกรรมการผู้จัดการแทนนายรัตนชัย ผาติกนาวิน ที่ลาออก เพื่อหยุดกระแสความสับสนสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นตั้งแต่สับดาป์เกี่ยวกับความขัดแย้งทั้งในกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ และเกิดปัญหาภายในฝ่ายบริหาร ที่ส่งผลให้ราคาหุ้น METRO ก็ร่วงติดฟลอร์ต่อเนื่องและวันนี้ราคาก็ยังลงหนักต่อด้วยวอลุ่มหนาแน่น 
รักษาการเอ็มดี ประกาศเตรียมเปิดตัวมากขึ้น เป็นไปได้อาจนั่งเก้าอี้เต็มตัว ยอมรับที่ผ่านมาไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มากนัก แม้จะทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัทมาโดยตลอดเพียงแค่ไม่ได้ออกหน้าเท่านั้น และแม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในฝ่ายบริการ แต่จะไม่กระทบแผนธุรกิจ ที่จะมีการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์เมโทรสตาร์ 2.3 พันล้านบาทในปีนี้ รวมทั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ปีนี้คงไว้ที่ 700 ล้านบาท จาก 413 ล้านบาทในปี 50
"ตรงนี้ผมจะรักษาการกรรมการผู้จัดการไว้ก่อนจนกว่าเราจะคัดเลือกดูบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะมาจากภายในหรือภายนอก แต่จริงๆ แล้ว (การลาออกของนายรัตนชัย)ไม่ได้กระทบกับการทำงาน เพราะที่ผ่านมาผมก็ work กับทีมงานอย่างใกล้ชิด รู้ปัญหาอุปสรรค คนทำงานก็คุ้นเคยกันดี"นายวีระ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์
นายวีระ เชื่อว่าจะสามารถทำงานร่วมกับทีมงานได้ต่อไป เพราะที่ผ่านมาได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ขอเวลาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ซึ่งในช่วงต่อไปอาจจะเสนอคณะกรรมการบริษัทขอรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการอย่างเต็มตัวเองก็เป็นไปได้
"ผมไม่ได้รีบร้อนที่จะหาเอ็มดี ผมก็รักษาการไป ถือถ้าดูไปแล้วถ้าไม่หนักหนาเกินไป อาจจะเสนอทางบอร์ดว่าผมจะเป็นเองถาวรเลยก็ได้ แต่ขอรอดูสถานการณ์อีกครั้ง...อยากให้เข้าใจว่าผมเองก็มีความรู้ในธุรกิจเพราะผมจบทั้งวิศวะ และ ด้านการเงินการตลาดมา และเคยทำงานอยู่กับทิสโก้ ก็ถือว่าครบเครื่อง คนในบริษัทจะรู้ว่าผมทำงานได้ทุกเรื่อง"นายวีระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างการทำงานในบริษัทไม่มีการปรับเปลี่ยนใหญ่ เพียงแต่ตัวเขาเองจะปรับเปลี่ยนการทำงานใกล้ชิดมากขึ้น
*คาดปีนี้รายได้พุ่งจากขายกองทุนอสังหาฯ 2.3 พันลบ.
นายวีระ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมียอดรับรู้รายได้ 700 ล้านบาท ไม่รวมคาดการณ์รายได้จากการขายสินทรัพย์ให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป้ารายได้ดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 413 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการเซ็นหลุยส์ แกรนด์ เทอเรส ที่มียอดขายไปแล้ว 80% และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปีนี้ รวมทั้ง โครงการทาวน์เฮ้าส์"บ้านรวิภา"สุขุมวิท 103 ที่เริ่มเปิดขายในต้นปีที่ผ่านมา
สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงจะเปิดขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 2.3 พันล้านบาท แต่คงต้องเลื่อนออกไปจากเดือนมี.ค.นี้ เพื่อผลให้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ทั้งการลดภาษีธุรกิจเฉพาะและลดค่าธรรมเนียมการโอนมีผลสมบูรณ์ก่อน เพราะคาดว่าบริษัทจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นเป็นเงินประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน
"จริงๆ ตอนแรกเราจะออก เดือนมี.ค. แต่มาดูแล้วถ้า delay ไปแล้วเราได้ประโยชน์ทางภาษีก็รอได้ ถ้าออกกองทุน เราก็จะมีกระแสเงินสดเข้ามา 2,300 ล้านบาท"นายวีระ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะนำโครงการ สาทร วิสต้า แบงค์คอค - แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ ขายให้กับกองทุนฯ คาดว่าประเมินราคาได้ที่ 2.3 พันล้านบาท ณ ตอนนี้กำลังจะสร้างเสร็จ เข้าสู่ขั้นตอนตกแต่งภายใน โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯจะนำไปใช้คืนเงินกู้ 1 พันล้านบาท ,ซื้อทื่ดิน 500 ล้านบาท และที่เหลือนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท
ในปีนี้บริษัทยังตั้งงบลงทุนอีก 1 พันล้านบาท เพื่อหาซื้อที่ดินผืนใหม่เข้ามาเพิ่มโดยเน้นเส้นทางตามแนวทางรถไฟฟ้า เพื่อรองรับพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในช่วงปี 52-53 ซึ่งขณะนี้ก็เล็งที่ไว้หลายแห่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ซื้อ
*ขายบิ๊กล็อตไม่กระทบการดำเนินงาน
สำหรับรายการขายบิ๊กล็อตหุ้น METRO ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ และล่าสุดเช้าวันนี้ยังมีรายการเทขายหุ้นผ่านกระดานบิ๊กล็อตอีกถึง 12 รายการ ราว 28.6 ล้านหุ้น นายวีระ ยืนยันว่า ตัวเขาและกลุ่มไม่ได้ขายหุ้นออกไป และกลุ่มยังคงถือหุ้น METRO ในสัดส่วนมากกว่า 50% ดังนั้น รายการบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นล่าสุดคาดว่าเป็นการขายออกไปของกลุ่มนักลงทุนรายย่อย
"ตัวผมเองก็ถือหุ้นมากกว่าครึ่งไม่ได้ไปไหน ก็ยังอยู่ ... ผมไม่มีการขายหุ้นออกไป" นายวีระ กล่าว
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 5 เม.ย.50 ปรากฎรายชื่อ นายวีระ บูรพชัยศรี ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับหนึ่งใน METRO สัดส่วน 34.37%
ราคาหุ้น METRO ปิดเที่ยงที่ 4.06 บาท ลบ 0.70 บาท (-14.17%) โดยราคาหุ้นได้ร่วงติดฟลอร์มา 2 วันซ้อน ตั้งแต่วันที่ 10 -11 มี.ค.ที่ผ่านมา จากราคาเปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ ที่ราคา 9.65 บาท
"ราคาหุ้นเป็นเรื่องของนักลงทุน และผู้ถือหุ้น ไม่เกี่ยวกับส่วนการดำเนินงานของบริษัท ถึงราคาจะลง ไม่กระทบกับการบริหารงาน"นายวีระ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ