นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.สิงห์เอสเตท (S) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจาณาทบทวนแผนการดำเนินงานในปีนี้ หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้ หลังธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนรายได้มากสุดถึง 54% ได้รับผลกระทบจากยอดยกเลิกการจองโรงแรมในเครือทั้งในไทยและมัลดีฟส์ช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 63 ที่มีเข้ามาแล้วรวม 50-100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทเปิดทางให้ลูกค้าที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจสามารถเลื่อนกำหนดเข้าพักได้ถึงปลายปี 63 เพื่อลดความเสี่ยงการยกเลิกการจอง ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าหากการแพร่ระบาดทั่วโลกเริ่มคลี่คลายในช่วงเดือน ก.ย. 63 แนวโน้มรายได้ในปีนี้อาจจะทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับธุรกิจอาคารสำนักงานและพื้นที่เช่าที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 17% จากโครงการสิงห์คอมเพล็กซ์ อาคารซันทาวเวอร์ อาคารเมโทรโพลิส บริษัทได้มีมาตรการช่วยเหลือพันธมิตรผู้เช่า ด้วยการลดหย่อนค่าเช่าให้ราว 50% แม้จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทบ้าง แต่ถือเป็นการช่วยเหลือลูกค้าในภาวะที่ลูกค้ามีผลกระทบ และทำให้ผู้เช่ายังมีความสามารถเช่าพื้นที่ในโครงการเพื่อดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยเพื่อขายที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 29% บริษัทจะช่วยเหลือลูกค้าในแง่ของการโอนโครงการ ซึ่งจะเป็นการมอบโปรโมชันส่วนลดให้กับลูกค้าเพิ่มเติมในกรณีที่ลูกค้าตัดสินโอนในช่วงนี้ เพื่อจูงใจให้ลูกค้ามาโอนตามปกติ หลังจากที่เริ่มเห็นสัญญาณลูกค้าอาจจะชะลอการโอนไป เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์
ขณะที่การขายที่อยู่อาศัยในช่วงนี้อาจจะชะลอออกไป จากมาตรการของภาครัฐที่ให้งดเว้นการทำกิจกรรมเป็นหมู่คณะ การอยู่ใกล้ชิดและรวมกลุ่มกัน ซึ่งทำให้การขายโครงการชะลอตัว ส่งผลมาถึงการลดค่าใช้จ่ายในการตลาดและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของโครงการ จากเดิมที่ใช้ 3% ของมูลค่าโครงการ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่สามารถทำกิจกรรมทางการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการได้อย่างเต็มที่
ส่วนแผนงานการก่อสร้างโรงแรมในเกาะที่ 3 ในมัลดีฟส์ร่วมกับพันธมิตรเมียนมา อาจจะมีผลกระทบในการก่อสร้างที่ล่าช้าออกไปจากเดิมที่จะเริ่มในไตรมาส 2/63 มาเป็นไตรมาส 3/63 และกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการจะเลื่อนจากเดิมที่จะเปิดในเดือนพ.ย. 64 เป็นเดือนก.พ. 65
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร S กล่าวว่า จากประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 21 มี.ค. 63 โดยเฉพาะร้านอาหาร (ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น) บริษัทซึ่งเป็นเจ้าของอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า ได้เล็งเห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดกับผู้เช่าและพนักงานลูกจ้าง จึงได้ออกนโยบายในการช่วยเหลือพันธมิตรทางการค้าที่ได้รับผลกระทบในส่วนนี้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอีกระดับหนึ่ง หลังจากที่ภาครัฐมีการประกาศปิดพื้นที่และสถานประกอบการหลายๆแห่ง รวมถึงห้างสรรพสินค้า, พลาซา และตลาดนัด จนถึงวันที่ 12 เม.ย. 63 บริษัทมีความตั้งใจที่จะยืนหยัดเคียงข้างพันธมิตรทางการค้า ร่วมนำพาธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้อย่างดีที่สุด โดยมีมาตรการช่วยเหลือพันธมิตรทางการค้า ได้แก่ งดเก็บค่าเช่าสำหรับร้านค้ารีเทลที่ไม่เลิกจ้างพนักงาน สำหรับอาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ เมโทรโพลิส และเดอะไลท์เฮ้าส์
ส่วนพื้นที่รีเทลของซันพลาซาให้ส่วนลดตั้งแต่ 50% จนถึงการงดเก็บค่าเช่าบางร้านในเงื่อนไขเดียวกัน คือ ไม่เลิกจ้างพนักงาน
ทั้งนี้ สิงห์ เอสเตท ตระหนักในปัญหาที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือคู่ค้า และพันธมิตรทางการค้า ด้วยความจริงใจและห่วงใย เพื่อร่วมเคียงข้างก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน