นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศที่ออกมาแม้จะไม่ได้ดีมากก็ตาม ขณะที่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยก็มีการทำ Short Covering กันทำให้ตลาดบวกได้
แต่ทางสหรัฐฯการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังมีมากอยู่ จึงเป็นปัจจัยเสี่ยง แม้สหรัฐฯอาจจะมีมาตรการกระตุ้นชุดใหญ่ออกมาเพื่อเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวก็ตาม
อย่างไรก็ตามเช้านี้ ตลาดบ้านเราอาจได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สเช้านี้ยังบวกได้อยู่ โดยหุ้นที่ลงทุนแล้วปลอดภัยเป็นหุ้นจำพวกปัจจัย 4 อย่างอาหาร ที่ยังดูดี แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงหุ้นสายการบิน และการท่องเที่ยวไปก่อน เพราะเมื่อมีการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็จะมีข้อบังคับต่าง ๆ ตามมาซึ่งอาจจะกระทบต่อภาคธุรกิจดังกล่าวได้
พร้อมให้ติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทย ซึ่งถ้าเพิ่มขึ้นมาก รัฐบาลก็จะมีการใช้มาตรการเข้มข้นขึ้นอีกหรือไม่ โดยให้แนวรับ 1,020 จุด ส่วนแนวต้าน 1,080-1,110 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 มี.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,704.91 จุด พุ่งขึ้น 2,112.98 จุด (+11.37%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,417.86 จุด เพิ่มขึ้น 557.18 จุด (+8.12%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,447.33 จุด เพิ่มขึ้น 209.93 จุด (+9.38%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 354.45 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 52.86 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 592.42 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 140.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 58.22 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 67.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 31.05 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 232.49 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 มี.ค.63) 1,033.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.38 จุด (+0.92%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,933.07 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 มี.ค.63) ปิดที่ 24.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 2.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 มี.ค.) อยู่ที่ -1.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.80 แข็งค่าจากวานนี้เล็กน้อย นลท.จับตาผลประชุมกนง.บ่ายนี้-ลุ้นมาตรการเยียวยาโควิด-19 ของสหรัฐฯ
- นายกฯงัดยาแรงประกาศ ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เบื้องต้น 1 เดือน เริ่ม 26 มี.ค. ตั้ง "ศูนย์ศอฉ." นายกฯบัญชาการนั่งหัวโต๊ะ บูรณาการสกัดโควิดระบาด-ปรับแผนวันต่อวัน ระบุหากไม่สามารถแก้ปัญหาได้จำเป็นต้องปิดล็อกต่างๆ ทั้งหมด เป็นขั้นเป็นตอน วงครม.ยันไม่วิกฤติปิดเมือง แพทย์รามาฯ คาด 2 สัปดาห์หลังใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผู้ป่วยลด เอกชนขานรับ แนะอย่ากระทบผลิตสินค้าจำเป็น
- ครม.อัด 15 มาตรการเศรษฐกิจสู้โควิดระยะ 2 คาดเม็ดเงินหมุนเวียน 2 แสนล้านบาท จ่ายแรงงาน 3 ล้านราย "สมคิด" พร้อมออก พ.ร.ก.กู้เงิน หากจำเป็น จ่อคลอดมาตรการระยะ 3 เดือน เม.ย.นี้ "คลัง" เปิดลงทะเบียนแรงงาน 28 มี.ค.นี้ "สรรพากร" คาดยืดชำระภาษีช่วยเงินหมุนเวียนในระบบ 2.1 หมื่นล้านบาท
- สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) มั่นใจว่าปริมาณน้ำตาลทรายที่จัดสรรไว้บริโภคในประเทศปี 2562/63 จำนวน 2.5 ล้านตันหรือ 25 ล้านกระสอบจะเพียงพอกับความต้องการการบริโภคของคนไทยโดยไม่ขาดแคลนเนื่องจากคาดว่าปีนี้จากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่กระทบต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจึงคาดว่าจะทำให้การบริโภคน้ำตาลทรายของไทยน่าจะลดลงมาอยู่ที่ 2.4 ล้านตัน และห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ร้านค้าสะดวกซื้อ ต่างเตรียมพร้อมวางจำหน่ายน้ำตาลทรายเพียงพออยู่แล้ว หากความต้องเพิ่มขึ้นนำปริมาณสำรองการส่งออกมาทดแทนได้
- บอร์ดตลท. ตัดสินใจกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยไม่ต้องผ่าน ก.ล.ต. เพื่อความคล่องตัว พร้อมเล็งเปิดไฟเขียวใช้โปรแกรมเทรดดิ้งหลัง "เซอร์กิตเบรกเกอร์" ได้
- รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า วันที่ 30 มีนาคม บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ซึ่งเป็นคู่สัญญาสัมปทานกับ รฟม.จะเปิดเดินรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล ช่วงเตาปูน-ท่าพระ หรือส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน อย่างเป็นทางการ หลังจากได้เปิดทดลองใช้โดยไม่คิดค่าโดยสาร มาตั้งแต่ 23 ธันวาคม 2562 และเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารตั้งแต่ 30 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ถือเป็นการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลครบทุกสถานีเต็มโครงข่ายของเส้นทาง โดยมีจำนวนสถานีรวม 38 สถานี ระยะทางรวม 48 กิโลเมตร (กม.)
- "ธปท.-ก.ล.ต." ปรับเกณฑ์ช่วยเหลือกองทุนรวม ให้ครอบคลุมตราสารของ MMF และ Daily FI ทุกกองทุน พร้อมพิจารณามาตรการเพิ่มเติม
*หุ้นเด่นวันนี้
- RBF (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อลงทุน"เป้า 5.50 บาท ยังไม่ถูกกระทบจาก COVID-19 บริษัทสามารถส่งของทั้งในและส่งออกเป็นปกติ แนวโน้มกำไร ม.ค.-ก.พ. ดีต่อเนื่อง และเร่งขึ้นในเดือน มี.ค. เพราะลูกค้ารายใหญ่ (CP และเครื่องดื่มรายอื่น) เร่งซื้อของเพราะกลัวขาดวัตถุดิบ สำหรับโรงงานที่อินโดฯเริ่มผลิตแล้ว แต่ที่เวียดนามยัง เพราะเดินทางไปไม่ได้ แต่บริษัทก็ส่งออกไปขายได้ปกติเพราะเป็นสินค้าอาหาร ธุรกิจโรงแรมเป็นสัดส่วนเพียง 3% ของรายได้รวม ถ้าไม่มีรายได้ ไม่ต้องจ่ายค่าบริหารให้ accor การปิดโรงแรมและร้านอาหารต่างๆระยะนี้ กระทบน้อยมากเพราะมีลูกค้ากลุ่มนี้ต่ำกว่า 5% ของรายได้ ราคาลงมาต่ำกว่า IPO เป็นโอกาสทยอยซื้อลงทุน
- CPALL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 88 บาท ได้อานิสงส์ประชาชนแห่กักตุนสินค้าหนุนยอดขาย CPALL และ MAKRO (ถือหุ้น 38%) เพิ่มขึ้น และคาดว่า CPALL จะได้ประโยชน์มากสุดจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐ (คืนค่าประกันการใช้ไฟฟ้า 21 ล้านครัวเรือนมูลค่า 30,000 ล้านบาท และแจกเงินภาคแรงงาน 5,000 บาทต่อราย เป็นเวลา 3 เดือน วงเงินรวม 45,000 ล้านบาท)