นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทยฮา (KASET) เปิดเผยว่า บริษัทจะมีการทบทวนเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 51 ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2 พันล้านบาทจากเดิมที่บริษัทได้วางเป้าหมายในปีนี้ที่ 1.8 พันล้านบาท เนื่องจากการขยายตลาดต่างประเทศที่มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิม 50% จากตลาดตะวันออกกลาง และแอฟริกาที่เป็นตลาดเดิมที่มีศักยภาพ รวมทั้งจะขยายตลาดใหม่ด้วย
อีกทั้ง ยังมาจากการปรับราคาขายใหม่ในตลาดต่างประเทศ ที่ทยอยปรับขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาส 4/50 รวมปรับขึ้นเฉลี่ย 30% โดยเฉพาะราคาข้าวหอมมะลิที่ขณะนี้ราคาปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยปัจจุบันมีราคาที่ 700-800 เหรียญ/ตัน จากปีก่อน 600 เหรียญ/ตัน และมีความเป็นไปได้ที่ราคาข้าวจะปรับสูงขึ้นไปถึง 1,000 เหรียญ/ตัน จากความต้องการที่สูงขึ้น
ขณะที่ราคาขายในประเทศ บริษัทจะมีการทยอยปรับขึ้น 5-10% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีผลในไตรมาส 2 ปีนี้
"จากความเป็นไปได้ที่เรามองว่าตัวเลขรายได้จะเพิ่มสูงขึ้น และกำไรที่เพิ่มจากราคาขาย น่าจะทำให้ ความสามารถในการจ่ายปันผลในปีนี้ของเราดีกว่าปีก่อนที่จ่าย 0.03 บาทต่อหุ้น" นายสมฤกษ์ กล่าว
สำหรับ อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ จะปรับตัวขึ้นมา 12-13% ซึ่งใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยจากปีก่อนที่มี 12.5% ในปี 50
ในปีนี้ บริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ประเภทข้าว เป็นโจ๊กไก่สำเร็จรูป ไม่ใส่ผงชูรส แต่จะเพิ่มโอเมก้า3 ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และเป้าหมายของบริษัทปีนี้จะให้ความสำคัญในการเพิ่มสินค้า value added สูงขึ้น
ส่วนงบลงทุนในปีนี้ มีจำนวน 30 ล้านบาท เป็นการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและรักษาสัดส่วนการสต็อกสินค้าทุกตัวในคลังสินค้า
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตข้าวอยู่ที่ 2 แสนตันข้าวเปลือก/ปี ธัญพืช 5 พันตัน/ปี วุ้นเส้นธรรมดา 1.5 พันตัน/ปี และสินค้าแปรรูป 2 แสนหีบ/ปี
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--