นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีนโยบายสนับสนุนสภาพคล่องให้กับกองทุนเปิดตราสารหนี้ที่เปิดซื้อขายทุกวันทำการ และได้จัดตั้งกลไกพิเศษเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กองทุนรวม โดยให้ธนาคารพาณิชย์สามารถรับซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงิน และกองทุนรวมตราสารหนี้คุณภาพดีที่เป็นกองทุนเปิด อีกทั้ง ธปท. และสถาบันการเงินของรัฐยังได้ร่วมกันจัดตั้งกองทุนเพื่อรับซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่มีคุณภาพดี ในวงเงิน 70,000-100,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับตลาดตราสารหนี้และให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมไปถึงการที่ธปท. พร้อมเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลไกตลาดตราสารหนี้ภาครัฐทำงานได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และมีสภาพคล่องเพียงพอนั้น
KTAM ได้มีการติดตามสถานการณ์ในตลาดตราสารหนี้ทั้งในและนอกประเทศมาโดยตลอด และได้มีการปรับเพิ่มนโยบายโครงการ 7 กองทุน อันได้แก่ กองทุน เปิดกรุงไทยตราสารตลาดเงิน (KTSS) กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารตลาดเงินภาครัฐ (KTSV) กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ ระยะ 1 ถึง 3 ปี (KTFIX-1Y3Y) กองทุนเปิดกรุงไทยอ้างอิงเงินเฟ้อ (KTILF) กองทุนเปิดกรุงไทย ธนทรัพย์ พลัส (KTPLUS) กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น (KT-ST) และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส (KTSTPLUS) ให้กองทุนดังกล่าวสามารถกู้ยืมเงินหรือทำธุรกรรมการขายโดยมีสัญญาซื้อคืนในนามกองทุนรวม เพื่อให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการบริหารสภาพคล่องของกองทุนมากขึ้น
โดยสำนักงานได้ขยายอัตราส่วนการกู้ยืมเงินและการทำธุรกรรมการขาย โดยมีสัญญาซื้อคืนเป็นการชั่วคราว เพื่อประโยชน์ในการบริหารสภาพคล่อง และประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ลงทุน ซึ่งยิ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่ากองทุนภายใต้การบริหารจัดการของ KTAM จะเสถียรภาพมากขึ้น และจะไม่มีผลกระทบในการซื้อขายหน่วยลงทุนทั้ง 7 กองทุนของ KTAM
อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการกองทุนของ KTAM เป็นไปอย่างรอบคอบ โดยกองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิด (Daily Fixed Income Fund) ภายใต้การบริหารจัดการของ KTAM ได้มีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีสภาพคล่องสูง ผ่านการคัดกรองคุณภาพ และความแข็งแกร่งมาเป็นอย่างดี ประกอบกับมีการบริหารจัดการที่ระมัดระวังมาโดยตลอด ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นได้ว่ากองทุนรวมตลาดเงิน และกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิด (Daily Fixed Income Fund) ของ KTAM จะยังคงเป็นทางเลือกที่สร้างผลตอบแทนที่ดีและสภาพคล่องที่สูงให้แก่ผู้ลงทุนได้ในระยะยาวอย่างแท้จริง