ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,116.88 จุด เพิ่มขึ้น 24.92 จุด (+2.28%) มูลค่าซื้อขายราว 35,012 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้น โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,124.28 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,107.32 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการใช้มาตรการอัดฉีดเพิ่มสภาพคล่องของธนาคารทั่วโลก และหลายประเทศออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทำให้ในช่วงสั้นนี้ข่าวร้ายทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีผลน้อยลง
อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิเคราะห์ได้ประเมินโอกาสการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยไว้ที่ 200 จุด หรืออยู่ที่ระดับ 1,100-1,200 จุด
ทั้งนี้ ยังมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มปลอดภัย ได้แก่ โรงไฟฟ้า,สื่อสาร ซึ่งยังเป็นเป้าหมายการเพิ่มน้ำหนักของนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ขณะเดียวกันวันนี้ก็เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากราคาปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก และเริ่มจ่ายเงินปันผล
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกเกือบทั้งหมด แต่เริ่มลดความร้อนแรงลงในระดับที่เป็นบวกไม่มากแล้ว หรือบวกได้ประมาณ 1-2% จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะผันผวนอยู่ โดยให้แนวต้านไว้ที่ 1,133 จุด และแนวรับที่ 1,110 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,644.33 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,190.75 ล้านบาท ปิดที่ 60.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,006.09 ล้านบาท ปิดที่ .18.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,620.27 ล้านบาท ปิดที่ 30.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,448.59 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท