นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทางภาครัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล (P-Loan) ลงมาอยู่ที่ระดับ 22% จากระดับปกติที่กำหนดไว้อยู่ที่ 28% บริษัทยืนยันว่าไม่ได้เป็นผลกระทบ เนื่องจากบริษัทคิดอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 21% ซึ่งต่ำกว่าที่ภาครัฐบาลขอความช่วยเหลืออยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายสินเชื่อจะเติบโต 20-25% เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อปัจจุบันยังมีการเปิดให้บริการของสาขาตามปกติ ยกเว้นสินเชื่อที่ต้องมีการจดจำนองไม่สามารถปล่อยได้ เนื่องจากต้องมีการติดต่อกับหน่วยราชการที่ปัจจุบันถูกสั่งปิดให้บริการแล้ว โดยคาดว่าจะกระทบกับผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/63 ที่อาจจะไม่เติบโต หรืออาจจะใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 2/62
พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง หากยังยืดเยื้อและไม่สามารถคลี่คลายได้ภายในช่วงไตรมาส 2/63 บริษัทฯ จะมีการพิจารณาทบทวนเป้าหมายการเติบโต และแผนการเปิดสาขาใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมตามนโยบายของภาครัฐบาลที่ให้ชำระค่างวดลดลง 30% หรือหากต้องชำระลดลงมากกว่าที่กำหนด ทางบริษัทฯ ก็จะให้การช่วยเหลือเช่นกัน โดยบริษัทยืนยันว่าจะสามารถคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่ให้เกิน 2%
"เราไม่ได้รับผลกระทบต่อผลประกอบการอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาเราก็ใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับ 21% ซึ่งต่ำกว่าที่ทางรัฐบาลได้ความร่วมมืออยู่แล้ว และในช่วงนี้เราก็ยังสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามปกติ โดยในช่วงไตรมาส 1/63 ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ ยังคงมีการเติบโตได้ตามแผน แต่อย่างไรก็ตามเรายังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง หากในไตรมาส 2/63 ยังคุมไม่ได้เราคงต้องมาปรับแผนกันใหม่ แต่หากคุมได้จำนวนผู้ป่วยเริ่มลด เราก็พร้อมลุยในครึ่งปีหลังทันที"นายชูชาติ กล่าว