นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เอ็ม เอฟ อี ซี(MFEC)เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจในปี 51 ว่า ตั้งเป้าการเติบโตของผลประกอบการไว้ที่ 20-30% เพิ่มขึ้นจากปี 50 ที่เติบโต 27% โดยปรับแผนการพัฒนาบุคลากร และกลยุทธ์การขยายธุรกิจครั้งสำคัญ
MFEC จะเน้นสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในตลาด มุ่งพัฒนาการให้บริการที่ครบวงจรมากขึ้นในลักษณะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเข้าไปเป็นที่ปรึกษาและรับประกันความสำเร็จของโครงการ แทนการขายซอฟต์แวร์แต่เพียงอย่างเดียวเหมือนเช่นในอดีต เนื่องจากพบว่ายังเป็นช่องว่างที่สามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวและผู้ประกอบการต้องการให้โครงการที่ลงทุนความสำเร็จค่อนข้างแน่นอน
การปรับเป้าหมายการให้บริการโดยมุ่งที่ความสำเร็จของโครงการ แทนการขายซอฟต์แวร์แต่เพียงอย่างเดียวจะให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงตามไปด้วย ถือว่าสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่จะเน้นงานโครงการที่มีกำไรขั้นต้นในอัตราสูง มากกว่าจะเน้นที่รายได้แต่เพียงอย่างเดียว เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ MFEC ประสบความสำเร็จมาแล้วเป็นอย่างดีในปี 2550 ที่ผ่านมา และในปีนี้จะสานต่อนโยบายดังกล่าวต่อไป
ควบคู่กับการมุ่งขยายฐานลูกค้าทั้งแนวกว้างและแนวลึก โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มสื่อสารและธนาคาร เนื่องจากเป็นธุรกิจที่จำเป็นต้องลงทุนในระบบไอทีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และการแข่งขันที่รุนแรงที่เกิดขึ้นในอนาคต ประกอบกับในแต่ละปีทั้งสองธุรกิจมีงบประมาณในการลงทุนด้านไอทีเป็นจำนวนมากกว่าปีละหมื่นล้านบาท ดังนั้นหากสามารถเข้าไปรับงานอย่างต่อเนื่องได้ จะทำให้บริษัทฯสามารถเติบโตได้ในอัตราปีละ 20-30% อย่างน้อย 3 ปี ติดต่อกัน
นายศิริวัฒน์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการปรับรูปแบบการให้บริการทางธุรกิจแล้ว ยังได้เตรียมเพิ่มสินค้าที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้น เพิ่มฐานลูกค้าด้วยการมุ่งเจาะลูกค้าในหลากหลายธุรกิจมากขึ้น และเพิ่มฐานลูกค้าเชิงลึกด้วยการมุ่งเจาะลูกค้าในระดับ TOP 5 ในทุกอุตสาหกรรม และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมาใช้แทนของเดิม เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า
ขณะที่ภายในบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งบุคลากรและวิธีการทำงานในรูปแบบใหม่ เพื่อให้รับมือกับการขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว โดยวางงบลงทุนในปี 51-53 ปีละ 20 ล้านบาท
นายศิริวัฒน์ เชื่อว่าการปรับตัวของ MFEC ในครั้งนี้จะทำให้สามารถผลักดันผลประกอบการในปี 2551 ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 มีงานในมือ (Backlog) รอรับรู้เป็นรายได้แล้วประมาณ 1,020 ล้านบาท จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ทั้งหมด และในแต่ละปีมีเป้าหมายจะรักษา Backlog ให้อยู่ในระดับ 1,000-1,200 ลบ. เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระยะยาว
บริษัทยังอยู่ระหว่างรอผลการประมูลงานรวมมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท คาดว่าจะทราบผลในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า บริษัทคาดหวังได้งานประมูลทั้งหมด เนื่องจากเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก มูลค่างานประมาณ 50- 100 ล้านบาท โดยเป็นงานในกลุ่มสื่อสารและธนาคาร ซึ่งเป็นงานที่มีความถนัด
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะขายธุรกิจในบริษัท โฟร์บิซิเนท จำกัด หลังมีผลขาดทุนต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะปิดกิจการได้ในไตรมาส 2/51
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--