นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 63 จะดีขึ้นจากปี 62 ที่มีรายได้รวม 4.95 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 815 ล้านบาท จากความสามารถในการทำกำไรจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะรับรู้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงกว่า 200 ล้านบาท/ปี หลังจากชำระคืนหุ้นกู้ก่อนกำหนดจำนวน 1,450 ล้านบาทเมื่อปลายปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในอัตรากว่า 1.5% กับสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งจะมีผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในปีนี้และปีต่อไปอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) เพียง 0.28 ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการลงทุนโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ ๆ เพื่อขยายกิจการเพิ่มเติมได้อย่างมาก
ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นขณะนี้ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งในด้านรายได้และการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากรายได้การจำหน่ายไฟฟ้ากว่า 99% มาจากการขายไฟฟ้าให้ภาครัฐ คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับค่าไฟฟ้าในอัตรา FiT จึงไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการปรับค่าเอฟที นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าทั้ง 14 โรงของบริษัทยังกระจายกันอยู่ในหลายภูมิภาค ซึ่งการปฏิบัติงานของพนักงานมีลักษณะเป็น Social Distancing โดยธรรมชาติอยู่แล้ว
"การระบาดของไวรัสโควิด-19 แทบไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทำให้เรามั่นใจว่าปีนี้บริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากงวดปี 62"นางสาวจิรฐา กล่าว
ด้านนายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ACE กล่าวเสริมว่า ปีนี้บริษัทมีแผนงานขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนตามนโยบายสำคัญของภาครัฐ 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ (MW) โดยเฉพาะโครงการ Quick Win ซึ่งเป็นเฟสแรกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนสามารถรับรู้รายได้ได้อย่างรวดเร็ว และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์
นางสาวจิรฐา กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งประสบการณ์การพัฒนา และบริหารโรงไฟฟ้ากว่า 212 เมกะวัตต์ ความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า ด้วยวัสดุการเกษตร พืชพลังงานและขยะอินทรีย์ / ขยะชุมชน ความพร้อมทางการเงิน ผู้บริหาร - วิศวกรที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญจึงมั่นใจว่าบริษัทมีโอกาสที่จะชนะการประมูล และสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างมั่นคง
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid จำนวน 4 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้ง 93 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการขอขยายเวลาการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า คาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในครึ่งแรกปีนี้
ปัจจุบัน ACE มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว กำลังการผลิตติดตั้งรวม 212.18 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายระยะยาว ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งรวมมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 67 จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โครงการที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนา และโครงการในอนาคต ทั้งโรงไฟฟ้าชุมชนและโรงไฟฟ้าขยะ อันจะส่งผลให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่องในช่วง 5 ปีนี้