น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) จำนวน 1 กองทุน และ SSF (Super Savings Fund) จำนวน 4 กองทุน ซึ่งคัดสรรมาจากกองทุนรวมที่มีผลการดำเนินงานดีเพิ่มทางเลือกการลงทุนเพื่ออนาคตพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี
กองทุน SSFX ที่เปิดเสนอขาย ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรี SET100-เพื่อการออมพิเศษ (KFS100SSFX) มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทใหญ่100 อันดับแรกของไทย โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนเหมือนกองทุน KFS100RMF ที่มีผลการดำเนินงานที่ดีและได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจากงาน Money & Banking Awards 2019 (ข้อมูล :บลจ.กรุงศรี 26 มี.ค. 63 /ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
ทั้งนี้ ดัชนี SET100 ได้ปรับลดลง -35% นับตั้งแต่ปลายปี 62 จึงมองว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนระยะยาว เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ การลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีจะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ ผู้ที่มีฐานภาษีสูงจึงไม่ควรพลาดการลงทุน กองทุน SSFX ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาทซึ่งแยกวงเงินจาก SSF , RMF และการลงทุนเพื่อเกษียณอื่นๆ โดยกองทุน KFS100SSFX เปิดให้ลงทุนได้ถึง 30 มิ.ย. 63 เท่านั้นตามมติของคณะรัฐมนตรีที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 63
สำหรับกองทุน SSF จำนวน 4 กองทุน มีกำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรกในวันที่ 1 เม.ย. 63 ซึ่งบริษัทได้คัดสรรกองทุนที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำสุดไปจนถึงความเสี่ยงสูง เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถจัดสรรเงินลงทุนได้อย่างเหมาะสม โดยกองทุน SSF ความเสี่ยงต่ำที่เปิดเสนอขาย ได้แก่
กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน – เพื่อการออม (KFCASHSSF) มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐด้วยสัดส่วนการลงทุนมากกว่า 85% ของกองทุน และมีอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในพอร์ตการลงทุนประมาณ 1-1.5 เดือนจึงมีความผันผวนน้อย เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ
หากรับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้นอาจพิจารณาลงทุนในกองทุนเปิดกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้-เพื่อการออม (KFAFIXSSF) ที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนเช่นเดียวกับกองทุน KFAFIX ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่มีผลตอบแทนเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมในปี 2562" (ข้อมูล : Morningstar ณ 31 ธ.ค. 62/ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต) มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางทั้งในประเทศและต่างประเทศเหมาะสำหรับผู้ที่มองหาโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ แบบเดิมและสามารถรับความผันผวนในระยะสั้นได้
ในส่วนของกองทุน SSF ที่มีนโยบายการลงทุนแบบผสมที่เปิดเสนอขาย ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีชีวิตดี๊ดี –เพื่อการออม(KFHAPPYSSF) ใช้กลยุทธ์การลงทุนเช่นเดียวกับกองทุน KFHAPPY โดยผสานการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ด้วยสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ 75% และอีก 25% ลงทุนในหุ้น REITs กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมควบคู่ไปกับการจัดการเรื่องความเสี่ยงให้สมดุล นอกจากนี้กองทุนยังมีจุดเด่นของกลยุทธ์การลงทุนที่ยืดหยุ่นและมีความคล่องตัวสูงมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา
ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นช่วงจังหวะที่ราคาน่าสนใจแบบนี้อาจพิจารณาลงทุนในกองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ท50 – เพื่อการออม (KFENS50SSF) เน้นการลงทุนให้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงดัชนีอ้างอิงSET50 มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 ประมาณ 90%ของพอร์ตการลงทุน และอีก10%เน้นการลงทุนเชิงรุกเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม