(เพิ่มเติม) บลจ.ทหารไทย เริ่มจ่ายเงินลงทุนคืนผู้ถือหน่วย 4 กองตราสารหนี้วันนี้ไม่เกิน 10% คาดจ่ายครบภายใน 90 วัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 30, 2020 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย อิสท์สปริง (TMBAM Eastspring) แถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดสรรเงินคืนให้ผู้ถือหน่วยทั้ง 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ กองทุนเปิด ทหารไทย ธนพลัส และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาลว่าหลังจากที่ได้ปิดกองทุนทั้ง 4 กองดังกล่าว บริษัทจะเริ่มจ่ายคืนเงินลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทั้ง 4 กองทุนวันนี้เป็นวันแรกในอัตราส่วนไม่เกิน 10% ของมูลค่าทร้พย์สิน โดยจะขายตราสารที่ครบกำหนดอายุก่อน และคาดว่าจะทยอยจ่ายเงินคืนได้ไม่เกิน 20%ของมูลค่าทรัพย์สินภายใน 1 เดือน จากนั้นจะทยอยจ่ายคืนทุกๆ 2 สัปดาห์ ซึ่งแต่ละกองทุนอาจจะได้จำนวนเงินไม่เท่ากัน

ทั้งนี้ บลจ.ทหารไทย คาดว่าจะใช้ระยะเวลาภายใน 90 วันทยอยจ่ายคืนให้ครบ แต่ถ้าจำเป็นก็ขอผ่อนผันกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อีก 90 วัน เพราะสภาพตลาดปัจจุบันไม่สะท้อนมูลค่าของตราสารหนี้หรืออาจทำให้เกิดผลเสียหายต่อผู้ถือหน่วยอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ธนาคารทหารไทย (TMB) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 35% ได้ออกโปรแกรมให้สินเชื่อระยะสั้นในอัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่ผู้ถือหน่วยทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล เพื่อนำไปใช้ตามความจำเป็นก่อน

นายบุญชัย ยังกล่าวว่า การปิดกองทุนทั้ง 4 กองทุนเกิดจากแรงขายที่มีเข้ามาต่อเนื่อง จนทำให้กองทุนอาจมีปัญหาในการบริหารจัดการสภาพคล่องที่เพียงพอแต่ละวันได้ ผู้บริหารจึงจำเป็นตัดสินใจปิดกองทุน ทั้งที่มีสินทรัพย์คุณภาพดี เพื่อเกิดผลดีต่อผู้ถือหน่วยที่ยังคงอยู่

"ถึงวันนี้เราต้องเร่งจ่ายคืนเงินลงทุนให้เร็วที่สุด ตั้งแต่วันนี้ซึ่งเป็นวันแรกและครั้งแรก เราจะทยอยคืนให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด เราจะพยายามทำเต็มที่"นายบุญชัย กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนกองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส มีตราสารหนี้ระยะสั้นมากที่สุด ส่วนกองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล ส่วนใหญ่ลงทุนตราสารหนี้ระยะยาว

อนึ่ง มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ณ วันที่ 25 มี.ค.63 กองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส 78,433 ล้านบาท กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน 25,191 ล้านบาท กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ 38,234 ล้านบาท และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล 10,681 ล้านบาท ลดลงจาก NAV ณ วันที่ 13 มี.ค.63 ดังนี้ 99,295 ล้านบาท 73,039 ล้านบาท 67,212 ล้านบาท และ 14,553 ล้านบาท ตามลำดับ

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย อิสท์สปริง (TMBAM Eastspring) แถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดสรรเงินคืนให้ผู้ถือหน่วยทั้ง 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ กองทุนเปิด ทหารไทย ธนพลัส และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาลว่าหลังจากที่ได้ปิดกองทุนทั้ง 4 กองดังกล่าว บริษัทจะเริ่มจ่ายคืนเงินลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทั้ง 4 กองทุนวันนี้เป็นวันแรกในอัตราส่วนไม่เกิน 10% ของมูลค่าทร้พย์สิน โดยจะขายตราสารที่ครบกำหนดอายุก่อน และคาดว่าจะทยอยจ่ายเงินคืนได้ไม่เกิน 20%ของมูลค่าทรัพย์สินภายใน 1 เดือน จากนั้นจะทยอยจ่ายคืนทุกๆ 2 สัปดาห์ ซึ่งแต่ละกองทุนอาจจะได้จำนวนเงินไม่เท่ากัน

ทั้งนี้ บลจ.ทหารไทย คาดว่าจะใช้ระยะเวลาภายใน 90 วันทยอยจ่ายคืนให้ครบ แต่ถ้าจำเป็นก็ขอผ่อนผันกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อีก 90 วัน เพราะสภาพตลาดปัจจุบันไม่สะท้อนมูลค่าของตราสารหนี้หรืออาจทำให้เกิดผลเสียหายต่อผู้ถือหน่วยอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ธนาคารทหารไทย (TMB) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 35% ได้ออกโปรแกรมให้สินเชื่อระยะสั้นในอัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่ผู้ถือหน่วยทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล เพื่อนำไปใช้ตามความจำเป็นก่อน

นายบุญชัย ยังกล่าวว่า การปิดกองทุนทั้ง 4 กองทุนเกิดจากแรงขายที่มีเข้ามาต่อเนื่อง จนทำให้กองทุนอาจมีปัญหาในการบริหารจัดการสภาพคล่องที่เพียงพอแต่ละวันได้ ผู้บริหารจึงจำเป็นตัดสินใจปิดกองทุน ทั้งที่มีสินทรัพย์คุณภาพดี เพื่อเกิดผลดีต่อผู้ถือหน่วยที่ยังคงอยู่

"ถึงวันนี้เราต้องเร่งจ่ายคืนเงินลงทุนให้เร็วที่สุด ตั้งแต่วันนี้ซึ่งเป็นวันแรกและครั้งแรก เราจะทยอยคืนให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด เราจะพยายามทำเต็มที่"นายบุญชัย กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนกองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส มีตราสารหนี้ระยะสั้นมากที่สุด ส่วนกองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล ส่วนใหญ่ลงทุนตราสารหนี้ระยะยาว

อนึ่ง มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ณ วันที่ 25 มี.ค.63 กองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส 78,433 ล้านบาท กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน 25,191 ล้านบาท กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ 38,234 ล้านบาท และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล 10,681 ล้านบาท ลดลงจาก NAV ณ วันที่ 13 มี.ค.63 ดังนี้ 99,295 ล้านบาท 73,039 ล้านบาท 67,212 ล้านบาท และ 14,553 ล้านบาท ตามลำดับ

นายบุญชัย กล่าวว่า แรงกดดันด้านราคาที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญภายหลังการปิดกอง สะท้อนให้เห็นว่าการตัดสินใจปิดกองเพื่อรักษามูลค่าของเงินฝากและตราสารคุณภาพดีที่อยู่ในพอร์ตเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้วภายใต้ภาวะดังกล่าว เพราะสามารถคุ้มครองมูลค่าของหน่วยลงทุนจากแรงเทขาย และช่วยให้ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเนื่องจากตราสารหนี้ในกองทุนล้วนเป็น Investment grade มีคุณภาพดี ไม่ได้มีปัญหาผิดนัดชำระหนี้ ทางกองทุนก็ยังคงจะได้รับผลตอบแทนจากเงินฝากและตราสารหนี้ที่ใกล้จะครบกำหนด และตลาดก็ยังมีความต้องการซื้อตราสารหนี้ที่กองทุนทยอยขายออกไป

ดังนั้น จึงอยากให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจ ไม่ตระหนกกับความผันผวนในระยะสั้นจนนำไปสู่ภาวะ Panic selling เพราะกองทุนตราสารหนี้ไทยล้วนลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี ผนวกกับมาตรการเสริมสภาพคล่องให้กับตลาดการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการสนับสนุนมาตรการสภาพคล่องจาก TMB ทำให้เริ่มเห็นการปรับตัวดีขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุนในกองทุนตราสารหนี้กองอื่นๆ เชื่อได้ว่าหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ผู้ลงทุนก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการเทขายออกมาในช่วงนี้

อย่างไรก็ดี หากกำหนดการจัดสรรเงินคืนของ บลจ.ไม่สอดคล้องกับความต้องการใช้เงินทุนของลูกค้า ทาง บลจ. ก็ได้รับการสนับสนุนจาก TMB ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นสัดส่วน 35% และเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายกองทุน โดยทาง TMB ได้ออกโปรแกรมสินเชื่อระยะสั้นอัตราพิเศษให้กับผู้ที่ถือหน่วยของทั้ง 4 กองทุน

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า ธนาคารยินดีให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกคนที่มีการลงทุนใน 4 กองที่ปิดตัวลง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ซื้อกองโดยตรงกับ TMBAM Eastspring ลูกค้าที่ซื้อกองผ่านทาง TMB หรือลูกค้าที่กองซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ก็สามารถเข้ามาติดต่อขอสินเชื่อได้หมดทุกคน โดยสามารถแจ้งความจำนงผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ท่านซื้อขายหน่วยลงทุน หรือผ่านทาง TMBAM Eastspring โทร 1725 ได้โดยตรง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ