นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทคงเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้เติบโต 20-30% จากปีก่อน 40,000 ล้านบาท โดยบริษัทได้ประเมินสถานการณ์ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายได้ในช่วงไตรมาส 3/63 และหลังจากนั้นคาดว่าจะมีความต้องการสินเชื่อค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 54
สำหรับทิศทางระดับสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2/63-ไตรมาส 3/63 จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยบริษัทได้ดูแลติดตามลูกค้าและให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลือที่ให้ลูกค้าชำระค่างวด 70% และจะมีการพิจารณาให้พักชำระหนี้ในลูกค้าบางราย ซึ่งมาตรการที่ใช้จะมีความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย
ส่วนแผนการขยายสาขาปีนี้บริษัทยังคงแผนเปิดสาขาใหม่ 300-400 สาขา จากปีก่อนที่มีสาขาทั้งหมด 4,000 สาขา แต่อย่างไรก็ตาม จะมีการพิจารณาความเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ อีกครั้ง
ขณะที่ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/63 ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นในช่วงปลาย ๆไตรมาสแล้ว แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะกระทบในช่วงไตรมาส 2/63 และช่วงไตรมาส 3/63 บ้าง ซึ่งบริษัทได้มีการให้บริการผ่านระบบออนไลน์ และคอลเซ็นเตอร์ เพื่อที่จะทดแทนในบางพื้นที่ที่ไม่สามารถให้บริการได้
ทั้งนี้ บริษัทยืนยันว่าจะยังมีกระแสเงินสดในมือ และมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน
"ส่วนใหญ่ผลกระทบหลักๆ จะอยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล แต่บริษัทเองจะเน้นพื้นที่ต่างจังหวัดมากกว่า โดยในพื้นที่ต่างจังหวัดสาขาของบริษัทยังคงเปิดได้ตามปกติ แม้ว่าอาจจะต้องปิดทำการเร็วบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นผลกระทบอะไร ซึ่งหากปีนี้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ยืดเยื้อไปถึงไตรมาส 4 ก็เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบต่อเป้าหมายผลประกอบการ เนื่องจากยังมีความต้องการสินเชื่ออยู่ และจะกลับมาต้องการมากหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ซึ่งในช่วงเวลาแบบนี้เราก็ได้เข้าดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด และมีการช่วยเหลือในแต่ละรายอย่างเหมาะสม"นางสาวธิดา กล่าว