(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัว อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทาง แต่ยังมีลุ้นเก็งกำไรจากคาดหวังเม็ดเงิน SSF

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวหล้งจากที่ปรับขึ้นไปค่อนข้างแรงแล้ว ก็ทำให้อาจมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง ซึ่งบรรยากาศการเก็งกำไรยังเป็นบวก หลังดัชนีฯยืนเหนือระดับ 1,115 จุดได้ แม้ภาพโดยรวมจะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา คนก็ยังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในยุโรป ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มทรงตัว ทำให้มองว่าน่าจะใกล้จุดสูงสุดในเวลาอันใกล้นี้ ส่วนสหรัฐฯก็ยังเห็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อที่เร่งตัวขึ้น แต่สหรัฐฯก็มีการหักล้างด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบกันไม่มาก จากแรงขายทำกำไร ซึ่งตลาดรับรู้แล้วว่าเศรษฐกิจจะไม่ดีในหลายตลาดฯ จึงไม่ค่อยกังวลมากนัก แต่มองว่าเศรษฐกิจจะแย่หนักในไตรมาส 2/63 มากกว่าไตรมาส 1/63 ทั้งนี้ บ้านเราก่อนที่จะประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/63 ก็ยังมีเวลาอยู่ 2 สัปดาห์ ซึ่งช่วงนี้อาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาได้ในการตอบรับความคาดหวังเม็ดเงินจากกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่คาดว่าจะเข้ามาจริงในสัปดาห์หน้า

พร้อมให้แนวรับ 1,115 จุด ส่วนแนวต้าน 1,133 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 มี.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,917.16 จุด ร่วงลง 410.32 จุด (-1.84%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,584.59 จุด ลดลง 42.06 จุด (-1.60%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,700.10 จุด ลดลง 74.05 จุด (-0.95%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.76 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 230.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 17.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 237.58 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.06 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.99 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 18.14 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.56 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 มี.ค.63) 1,125.86 จุด เพิ่มขึ้น 38.04 จุด (+3.50%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,664.55 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 มี.ค.63
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 มี.ค.63) ปิดที่ 20.48 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 1.9%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 มี.ค.) อยู่ที่ -1.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.80 ตลาดไร้ปัจจัยใหม่ รอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ คืนนี้
• แบงก์ชาติ หวังมาตรการรัฐก๊อก 3 วงเงิน 4 แสนล้านบาท ช่วยอุ้มเศรษฐกิจไทยราว 3% ของจีดีพี ขณะเศรษฐกิจไทย ก.พ. "หดตัว" เกือบทุกภาค เว้น "การบริโภค" ที่เห็นการเร่งตัวจากการซื้อสินค้าตุน ส่วน "ท่องเที่ยว" ทรุดแรง 42.8% ด้าน "ซีไอเอ็มบีไทย" หั่น "จีดีพี" ปีนี้เป็นหดตัว 6.4% พิษโควิดระบาดหนัก ด้าน "หอการค้าไทย" คาดฉุดส่งออกหดตัวหนักสุดรอบ 10 ปี
• สทท. เผยดัชนีเชื่อมั่นท่องเที่ยว ไตรมาส 1/63 ต่ำสุด 9 ปี หลังโควิด-19 ระบาดหนัก ทั่วโลก ฉุดเดินทางตั้งแต่ต้นปี ขณะในไทยระบาดรุนแรงขึ้นปลายไตรมาสแรก กลุ่มตัวอย่าง 16% มีแผนลดจ้างงานไตรมาส 2 จี้รัฐเข้มจำกัดเดินทาง เร่งคลี่คลายการระบาด
• สายการบิน "การบินไทย" ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน ทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ ทุกเส้นทางชั่วคราว เป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-31 พ.ค.63 จากพิษเชื้อไวรัส "โควิด-19"
• "ทริสเรทติ้ง" เผย 22 บจ.อสังหาริมทรัพย์มี "หุ้นกู้" ครบกำหนดไถ่ถอนปีนี้รวม 8.93 หมื่นล้านบาท เชื่อทุกรายมีเงินสดคงเหลือในมือ-วงเงินกู้พร้อมเบิกจากธนาคารเพียงพอรองรับการไถ่ถอน หลังนักลงทุนลดความสนใจลงทุน เน้นถือเงินสดในช่วง "โควิด-19" ระบาดหนัก พร้อมประเมินยอดขายปีนี้ ส่อลดลง 20-30% กดดันรายได้ลด แนะให้ความสำคัญ กับการรักษาสภาพคล่อง
• นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บสย.พร้อมดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐบาล ร่วมกับธนาคารออมสิน ในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS (Portfolio Guarantee Scheme) ระยะที่ 8
• นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ส่งออกไทยในปี 63 คาดว่า จะมีมูลค่า 228,816 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีก่อน 7.1% หรือลดลง 17,429 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (557,728 ล้านบาท) ถือเป็นอัตราที่ต่ำสุดรอบ 10 ปี แบ่งเป็น ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำจากการระบาดไวรัสโควิด-19 ถึง 80%, ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน 10%, สงครามการค้าสหรัฐ-ประเทศคู่ค้า 5% และความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอิหร่าน 50% ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการส่งออกไทยไปยังอาเซียนจะเสียหายมากสุดหรือลดลง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือส่งออกไปฮ่องกงลดลง 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, ญี่ปุ่นลดลง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, จีนเสียลดลง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอียูลดลง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น

*หุ้นเด่นวันนี้

• BCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 20.30 บาท แม้โควิด-19 จะกระทบ WMC ซึ่งมีผู้ป่วยต่างชาติ 76% แต่รายได้จาก WMC คิดเป็นเพียง 14% ของรายได้รวมของ BCH ผลกระทบดังกล่าวชดเชยได้จากการปรับเพิ่มเงินของประกันสังคมราว 7% จึงคาดเบื้องต้นว่ากำไรปกติ Q1/63 จะเติบโตทั้ง Q-Q, Y-Y พร้อมคาดกำไรปกติทั้งปี +19% Y-Y จากการปรับเพิ่มเงินของสปส.และจำนวนผู้ประกันตน และรพ.เกษมราษฎร์รามคำแหงมีโอกาสถึงจุดคุ้มทุน ประมาณการอาจมี downside แต่ราคาหุ้นถูกมาก ซื้อขายที่ PE เฉลี่ย -2SD
• BCPG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 19.8 บาท เป็นหุ้น Defensive ที่ Valuation ไม่แพงซื้อขายบน PE ต่ำเพียง 10 เท่าจ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ Dividend yield ประมาณ 5-6% ต่อปี เทียบกับ PE เฉลี่ยของกลุ่มที่ 20-30 เท่าและ Dividend yield ประมาณ 2% นอกจากนี้ BCPG ยังมี Growth story จากจำนวนเมกะวัตต์ที่เพิ่มขึ้น จากโครงการโรงไฟฟ้า Nam San 3A และ 3B ในลาว, โรงไฟฟ้าพลังงานลม Swan กำลังการผลิต 270MW ในลาว และโรงไฟฟ้า solar สี่แห่ง 75MW ในญี่ปุ่น