หุ้น CPALL พลิกมาลบ 1.23% ในช่วงบ่าย มาที่ 60.25 บาท หรือลดลง 0.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1,202.46 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.59 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 60.50 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 61.50 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 60.00 บาท
หุ้น BJC ลดลง 1.85% มาที่ 39.75 บาท หรือลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 118.44 ล้านบาท
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีกในช่วงบ่ายวันนี้ ได้รับแรงกดดันจากประกาศของผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ (กทม.) ที่กำหนดให้ร้านค้าทุกประเภท รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ ปิดตั้งแต่เวลา 24.00 น.-05.00 น. ตั้งแต่คืนวันนี้ ส่งผลกดดันหุ้นที่มีการดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่เป็นผู้นำตลาดอย่าง CPALL ที่มีร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่นหลายสาขาในกรุงเทพฯ ซึ่งมองว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายตามมาหลังจากนี้ และเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติมหลังจากที่สาขาในปริมณฑลและต่างจังหวัดมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิดไปก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกันหุ้นที่มีการดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เช่น BJC ที่มีร้านสะดวกซื้อ บิ๊กซี มินิ และ CRC ที่มีร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท และท้อปส์ เดลี่ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วยจากการประกาศของผู้ว่าฯ กทม.ที่กำหนดเวลาปิดร้านค้าที่เพิ่งออกมา แต่มองว่าหลังจากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว หุ้นกลุ่มค้าปลีกยังมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวขึ้น โดยปัจจุบันเป็นการตอบรับของตลาดในหุ้นกลุ่มนี้จากการคุมเข้มของ กทม.ที่ส่งผลกดดันเท่านั้น