นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้ยังน่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19 อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แต่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทไม่มาก เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ผลิตอาหารที่เป็นสินค้าจำเป็น และบริษัทในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตสินค้าเนื้อสัตว์และอาหารคุณภาพด้วยมาตรฐานปลอดภัย
พร้อมกันนั้น บริษัทยังยืนยันว่าคนไทยจะมีอาหารมั่นคงเพียงพอโดยไม่ขาดแคลน และให้คำมั่นว่าจะผลิตอาหารและดูแลการจัดจำหน่ายขนส่งอาหารอย่างเต็มกำลังและเต็มประสิทธิภาพด้วยมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคอย่างเคร่งครัด โดยยังคงเดินหน้า "โครงการส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19" ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลกว่า 70 แห่ง และกลุ่มบุคคลที่ต้องเฝ้าระวังกว่า 10,000 คนแล้ว
นายประสิทธิ์ ยังเปิดเผยว่า ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ CPF ที่ระดับ "A+" สะท้อนสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทย ตลอดจนมีฐานการผลิตในหลายประเทศ การมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย
ในขณะเดียวกันยังได้จัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 25,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ A+ โดยบริษัทจะนำเงินไปใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน และ/หรือสำหรับการลงทุนของกิจการ และ/หรือชำระคืนหนี้เดิมของบริษัท และ/หรือให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยของบริษัท
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่วนจากระดับหนี้สินที่สูงของบริษัท ตลอดจนความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ์ของบริษัทซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งความเสี่ยงจากโรคระบาด และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของประเทศผู้นำเข้า ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาเป็นเวลานาน
ทริสเรทติ้งได้ออกประกาศเครดิตพินิจแนวโน้ม "ลบ" เมื่อวันที่ 13 มี.ค.63 เป็นผลสืบเนื่องมาจากการประกาศการลงทุนของ CPF ในกลุ่มเทสโก้เอเซีย โดยคาดว่ากระบวนการซื้อกิจการจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 63 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ต้องบรรลุก่อนที่ระบุในสัญญาซึ่งรวมถึงการได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง