ดัชนีหุ้นไทยเปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นกว่า 10 จุด รับแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแรงเมื่อคืนนี้ ตอบรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะยุติลง และคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด ผลักดันให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) ปรับขึ้นโดดเด่น หนุนภาพรวมการลงทุน
เมื่อเวลา 9.57 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,150.86 จุด เพิ่มขึ้น 12.59 จุด (+1.11%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.39 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,141.93 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด (+0.32%)
นายภาสกร ลินมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นเปิดช่วงเช้าปรับตัวขึ้นได้มากกว่า 10 จุด โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักในกลุ่มพลังงาน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงครามราคาน้ำมัน และคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
แต่อย่างไรก็ตามยังติดตามสถานการณ์ว่าจะสามารถจะมีการปรับลดการผลิตลงมากน้อยเพียงใด โดยเบื้องต้นคาดว่าจะปรับกำลังการผลิตลดลงราว 10 ล้านบาร์เรล ส่งผลต่อ Sentiment การลงทุนในระยะสั้น เนื่องจากมีการคาดการณ์จากหลาย ๆ ฝ่ายว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกลดลงมากกว่า 20 ล้านบาร์เรล
"การปรับลดการผลิตของน้ำมันลงนั้นจะช่วยสร้างสมดุลให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันโลกได้บ้าง เนื่องจากปัจจุบันคลังน้ำมันต่าง ๆ ก็เหลือที่เก็บน้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นมองว่าการปรับลดราว ๆ 10 ล้านบาร์เรล ยังไม่มากพอ เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ความต้องการใช้หายไปมากกว่า 20 ล้านบาร์เรล จึงมองว่าเป็นเพียง Sentiment การลงทุนระยะสั้นเท่านั้น โดยแนะนำให้ลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ได้ผลประโยชน์จากสถานการณ์ในปัจจุบัน คือ กลุ่มการสื่อสาร และกลุ่มอาหาร"นายภาสกร กล่าว