"ปีนี้เราก็ต้องประคองตัวเองไปก่อน แต่อย่างไรก็ตามในข่าวร้ายเรายังมีข่าวดีในเรื่องของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก โดยในช่วงนี้เราก็เน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และเตรียมแผนที่จะกลับมาฟื้นตัวในช่วงหลังจากสถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายลง ในส่วนของฐานะทางการเงินของบริษัทถือว่าดี และยังมีสถาบันทางการเงินรองรับหากมีความจำเป็น ในขณะเดียวกันภาครัฐบาลได้ออกนโยบายต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือด้วย"นายพิศาล กล่าว
นายพิศาล กล่าวว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/63 ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งน้ำมันปาล์มทางเรือที่ปกติบริษัทขนส่งไปยังประเทศจีนเป็นสัดส่วนถึง 48% ซึ่งการที่จีนหยุดการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงก่อนหน้านี้เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจึงส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันปาล์มดังกล่าว ส่วนไตรมาส 2/63 ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่าจะเพิ่มมากขึ้นเพียงใดในกลุ่มประเทศอื่นนอกประเทศจีน แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนคลี่คลายลงแล้วและกลับมาเปิดให้นำเข้า-ส่งออกสินค้าได้เต็มที่ทั้ง 100% แต่หากเรือของบริษัทไปส่งสินค้าที่จีนแล้วเดินทางไปรับสินค้าใหม่ในประเทศอื่นที่มีกฎเกณฑ์บังคับให้ต้องเว้นระยะเวลา 14 วัน ก็จะทำให้การขนส่งฟื้นตัวได้ไม่มาก แต่เชื่อว่าอัตราการใช้เรือจะสูงกว่าไตรมาส 1/63 ที่คาดว่าจะต่ำกว่า 80% "ธุกิจการเดินเรือขนส่งน้ำมันปาล์มมีผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ค่อนข้างมากตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/63 และคาดว่าจะกระทบต่อเนื่องไปช่วงไตรมาส 2/63 แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะสามารถคลี่คลายได้ในระยะเวลาไม่นาน หากทุกอย่างกลับมาเราก็จะสามารถฟื้นตัวได้ทั้งในส่วนของการขนส่ง และอัตราการให้บริการด้วย"นายพิศาล กล่าว นายพิศาล กล่าวว่า สำหรับการขนส่งทางบก หรือการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงโดยรถบรรทุก บริษัทคาดว่าปีนี้ยังสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 25-30% ในเชิงปริมาณ โดยในช่วงไตรมาส 1/63 ที่ผ่านมาถือว่าเติบโตได้ตามแผนตามปริมาณการขายและการขยายสาขาปั๊มน้ำมันของ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ที่เป็นลูกค้าหลัก แต่ไตรมาส 2/63 ยังคงต้องติดตามว่า PTG จะมียอดจำหน่ายน้ำมันและการขยายสาขาตามแผนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนรถบรรทุกอย่างน้อย 35 คัน โดยปัจจุบันได้เพิ่มไปแล้ว 10 คัน และจะรับมอบเข้ามาเพิ่มในช่วงไตรมาส 2/63 อีก 25 คัน ส่วนที่เหลือยังต้องติดตามสถานการณ์ในประเทศอย่างต่อเนื่องว่าจะมีผลกระทบกับปริมาณการใช้น้ำมันและแผนงานของ PTG ด้วย "จริงๆ เรามีแผนการเพิ่มจำนวนรถบรรทุกทั้งหมด 40-60 คันในปีนี้ แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้น การขยายสาขาของ PTG ก็ยากขึ้น การเดินทางของประชาชนก็น้อยลงเช่นกัน จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องว่าจะกระทบมากน้อยเพียงใด แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในส่วนของธุรกิจรถบรรทุกยังดี"นายพิศาล กล่าว