นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้วางแนวทางการดำเนินงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยยังคงทำหน้าที่หลัก และเพิ่มหน้าที่เสริมเข้ามา เช่น เดินหน้าให้ข้อมูลกับสังคม และสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยมีปริมาณอาหารเพียงพอกับความต้องการ โดยไม่ต้องกักตุนสินค้า ซึ่งบริษัทฯ จะมีการซัพพลายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่ายของ CPF, ร้านค้าปลีก ไม่ว่าจะเป็น ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น, TOP ซุปเปอร์มาเก็ต, Makro เป็นต้น รวมถึงช่วยทางรัฐบาล โดยประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องของการทำ stabilize ราคาสินค้า ไม่ให้มีการฉวยโอกาสในการขึ้นราคาสินค้าในช่วงวิกฤตนี้
ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานในช่วงดังกล่าวประสบผลสำเร็จ บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องของการดูแลพนักงาน เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจต่อพนักงานในช่วงโควิด-19 ในการเดินทางมาทำงานอย่างปลอดภัย, ให้ความเป็นห่วงซัพพายเออร์ขนาดกลางและขนาดเล็กว่ายังซัพพลายของให้กับบริษัทได้อยู่หรือไม่, การกำหนดโยบายเรื่องราคาสินค้า และเรื่องเงินสด (Cash Flow) โดยไปดูว่ามีเพียงพอหรือไม่ ซึ่งบริษัทมีความต้องการจะช่วยลูกค้าและจ่ายเงินให้ตรงตามเวลาแก่ซัพพลายเออร์ รวมถึงการช่วยเหลือลูกหนี้ อีกทั้งประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ ของบริษัทฯ โดยเฉพาะเรื่องของ Supply Chain เนื่องด้วย CPF มีหน้าที่ซัพพลายอาหารให้กับประเทศ
อย่างไรก็ตาม Supply Chain System จะแบ่งออกเป็น ความมั่นคงทางด้านอาหารของ CPF โดยยืนยันว่าคนไทยจะไม่ขาดแคลนอาหาร จากไลน์การผลิตมีความพร้อมเต็มกำลัง และย้ำว่าไข่ไก่ไม่ขาดแคลน โดยได้เปิดสถานีไข่สด ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค, ระบบ Supply Chain ของ CPF โดยให้ความสำคัญกับวัตถุดิบตั้งแต่ ฟีด ฟาร์ม และฟู้ด รวมถึงพนักงาน, จัดตั้งศูนย์บัญชาการพิเศษในองค์กร แบ่งเป็น ศูนย์การประชุมปรึกษาหารือ ประสานงานศูนย์ระดับธุรกิจ (เหตุการณ์ ข้อมูล ปัญหา) จัดทำระบบเก็บข้อมูล รับเรื่อง-หาคำตอบ ตรวจติดตามตามมาตรการ และจัดทำจดหมายข่าวเผยแพร่, ออกมาตรการป้องกันโรคในแต่ละขั้นตอน เช่น มาตรการป้อกันโรคในโรงงานอาหารสัตว์ และในฟาร์ม, การขนย้ายภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน และมาตการเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการเพื่อสังคม เช่น โครงการ CPF ส่งอาหารจากใจร่วมต้านภัยโควิด-19 ซึ่งเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.63 โดยได้ส่งมอบอาหารแก่บุคลากรทางการแพทย์ 88 แห่งทั่วประเทศ และโครงการส่งอาหารให้แก่ผู้กักตัวที่เดินทางกลับจากต่างประเทศจำนวน 20,000 คน ขณะที่ในเดือนเม.ย.นี้ บริษัทฯ จะดำเนินโครงการดังกล่าวต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการสนับสนุนอาหารแก่บุคลากรทางการแพทย์ ประกอบกับเมื่อเลิกโครงการส่งอาหารให้แก่ผู้กักตัวดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ มีแผนที่จะส่งอาหารไปยังครอบครัวคุณหมอและพยาบาลที่ทำงานเพื่อโควิด-19 โดยจะเริ่มดำเนินงานในวันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป และช่วยผู้หวังดีที่ต้องการบริจาคอุปกรณ์การแพทย์หรืออื่น ๆ กระจายสินค้าดังกล่าวไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยใช้ Logistic Network ของ CPF