นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของทุกภาคธุรกิจ ในส่วนของบริษัทได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มากนัก เนื่องจากบริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือและปรับเปลี่ยนแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับการทำงานของทีมงาน, การปรับการขายที่ดึงเอาเทคโนโลยี Virtual Tour 360 องศา มาใช้ให้ลูกค้าชมบ้านเสมือนจริงแม้ไม่ได้เดินทางมาที่โครงการ และยังสามารถเลือกเป็นเจ้าของผ่านช่องทาง Line ได้อีกด้วย
นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และกว่า 70% เป็นลูกค้าไม่ติดภาระสัญญากู้เงินที่อยู่อาศัย ประกอบกับสินค้าของบริษัทอยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท จึงทำให้ได้รับผลกระทบไม่มากนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น ทำให้บริษัทยังสามารถทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาส 1/63 สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 500 ล้านบาท ซึ่งหากนับรวมยอดจอง Pre-Approve และยอดขายรอโอน (Backlog) แล้ว บริษัทสามารถทำยอดขายในช่วงไตรมาสแรกคิดเป็น 35% ของเป้าตลอดทั้งปี 63 และจากการดำเนินงานในช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดจอง Pre-Approve และ Backlog ประมาณ 90 ล้านบาท/สัปดาห์ หรือเพิ่มขึ้น 80%
ด้านภาพรวมธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการของบริษัทจากความแข็งแกร่งของแผนธุรกิจ 5 ปี ที่มุ่งสร้างสมดุลรายได้เพื่อความมั่นคง นับว่าเป็นแผนการดำเนินงานที่บริษัทวางมาถูกทางแล้ว แม้ในภาพรวมของการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยจะชะลอตัวไปบ้างด้วยปัจจัยต่างๆ แต่ด้วยแผนธุรกิจของบริษัท ทำให้มีรายได้จากธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการ หรือธุรกิจรายได้ประจำเข้ามาเสริมและช่วยรักษาสมดุลทางรายได้ และยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งในปี 62 มีรายได้จากธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการ รวม 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปี 61
สำหรับแผนการดำเนินในธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการ ได้แก่ ธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ที่บริหารงานโดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ยังคงทำผลงานได้ดี ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผู้เช่าแล้วกว่า 90% ของพื้นที่เช่า, ธุรกิจโครงการ พาร์ค คอร์ท (Park Court) สุขุมวิท 77 คอนโดมิเนียมและอพาร์ตเมนต์ระดับลักซ์ชัวรี่ไฮเอนด์ให้เช่า ยังสามารถรักษาอัตราเช่าให้อยู่ที่ 80% ของจำนวนห้องเช่าทั้งหมด, ธุรกิจสนามกอล์ฟ ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ, ธุรกิจบริการด้านดูแลจัดการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดย บริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด รวมไปถึงธุรกิจโครงการสถานพยาบาล สถานฟื้นฟู และเวชศาสตร์ชะลอวัย (Wellness Center) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโต และมีแผนจะเปิดตัวช่วงปลายปี 63
ส่วนของหุ้นกู้และตั๋วแลกเงินที่จะครบกำหนดในช่วงปีนี้ บริษัทได้มีการเตรียมแผนการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ออกหุ้นกู้ 3 ปี 11 เดือน เป็นจำนวนเงิน 1.56 พันล้านบาท อีกทั้งได้มีการขายทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในแผนพัฒนาในอนาคตอันใกล้เป็นจำนวนเงินกว่า 2.6 พันล้านบาทในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา และยังมีทรัพย์สินที่ไม่มีภาระผูกพันอีกมากกว่า 2.5 พันล้านบาท ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นเพื่อใช้เป็นช่องทางในการเสริมสภาพคล่อง
สำหรับปีนี้ได้เตรียมที่จะขายทรัพย์สินในส่วนของโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ากว่า 130,000 ตารางเมตร มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท เข้ากองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทจัดการกองทรัสต์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และคาดว่ากองทรัสต์จะเสนอขายต่อประชาชนได้ในไตรมาส 3/63
ทั้งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (Interest bearing debt ratio) ให้ยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดย ณ สิ้นปี มีสัดส่วนเท่ากับ 1.3 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
"ในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ท้าทายด้วยปัจจัยหลาย ๆ ด้าน ทั้งปัจจัยจากไวรัสโควิด-19 และสภาวะเศษฐกิจทั้งหลาย แต่เราก็ยังคงเดินหน้าสานต่อนโยบายสร้างความสมดุลของรายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและธุรกิจที่สร้างรายได้ อย่างสม่ำเสมอทั้งเช่าและการบริการ และมุ่งมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพ เพื่อขยายในส่วนของธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ ตามแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปี พร้อมขยับสัดส่วนกำไรของทั้ง 2 ฝั่งให้อยู่ที่ 50/50 ภายในปี 64 เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นคงให้บริษัทตามแผนที่วางไว้"นายวรสิทธิ์ กล่าว