น.ส.วรมน อิงคตานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทคาดว่าจะปิดให้บริการชั่วคราว สำหรับโรงแรมในประเทศไทยครบทุกแห่งภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะปิดให้บริการจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือมีการประกาศเปลี่ยนแปลงจากทางรัฐบาล โดยปัจจุบันยังคงเปิดให้บริการโรงแรม เมอร์เคียว กรุงเทพ สยาม (Mercure Bangkok Siam Hotel) เพียงแห่งเดียวเท่านั้น เพื่อรองรับกับความจำเป็นของผู้เข้าพักในช่วงวิกฤตนี้
ส่วนโรงแรมในฟิลิปปินส์ บริษัทก็ได้ปิดให้บริการชั่วคราวสำหรับโรงแรมทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. จนกว่าจะมีการประกาศ เปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ เมื่อมีการปิดโรงแรมทุกแห่งแล้ว บริษัทยืนยันยังคงดูแลพนักงานระดับปฏิบัติการของทุกโรงแรมที่ปิดดำเนินการชั่วคราว โดยจ่ายเงินเดือนและให้สวัสดิการตามปกติในช่วงเวลาดังกล่าวภายใต้ข้อกำหนดให้พนักงานงดเว้นการเดินทาง ไปยังจังหวัดอื่นตามมาตรการของภาครัฐหากไม่จำเป็น ขณะที่เพื่อเป็นการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่าย บริษัทได้ปรับลดเบี้ยประชุมและผลตอบแทนกรรมการ ลดเงินเดือนระดับผู้บริหาร ทั้งในส่วนของสำนักงานใหญ่ และโรงแรมเป็นการชั่วคราว เพื่อให้พนักงานทุกคนของบริษัทได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยยืนยันว่าไม่มีนโยบายเลิกจ้างพนักงานอย่างแน่นอน
สำหรับค่าใช้จ่ายหลัก โดยเฉพาะพนักงาน บริษัทยืนยันว่ายังมีสภาพคล่องและกระแสเงินสดที่เพียงพอ โดย ณ สิ้นปี 62 มีเงินสดอยู่ราว 969 ล้านบาท และมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินจำนวนประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในปีนี้บริษัทมีกำหนดชำระหนี้สถาบันทางการเงินอยู่ราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งก็ได้มีการเจรจากับทางเจ้าหนี้เพื่อขอยืดการชำระหนี้ดังกล่าวออกไปก่อน ทำให้บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายดังกล่าวไว้ได้
ด้านแผนการลงทุนในปีนี้บริษัทได้พิจารณาระงับการลงทุนในโครงการทั้งหมดเป็นการชั่วคราว โดยแผนเดิมได้วางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 1,400 ล้านบาท เพื่อใช้ก่อสร้างโรงแรมใหม่ และปรับปรุงโรงแรมเดิม รวม 17 แห่ง ทั้งในไทยและฟิลิปปินส์ ประกอบด้วย โรงแรม HOP INN ในไทย 11 แห่ง และโรงแรมในฟิลิปปินส์ 6 แห่ง แบ่งเป็น โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ และอ็อป อินน์ เซบู ชิตี้ (Holday Inn & HOP INN Cebu City) ซึ่งจะเป็นโรงแรมภายใต้คอนเซป "คอมโบโฮเทล" แห่งแรกของบริษัทในฟิลิปปินส์ และโรงแรม HOP INN อีก 4 แห่ง ในเมืองมะนิลา ดาเวา และอิโลอิโล่
"ผลการดำเนินงานปีนี้ เรายอมรับว่าได้รับผลกระทบอย่างมาก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเราจะพยายามควบคุมค่าใช้จ่าย และดูแลต้นทุนต่าง ๆ เพื่อให้กระทบกับธุรกิจและพนักงานน้อยที่สุด"น.ส.วรมน กล่าว