(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์พุ่ง 126.81 จุดหลังผลตอบแทนพันธบัตรลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 3, 2007 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในวันแรกของไตรมาสที่ 3 หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐชะลอตัวลง และรายงานกิจกรรมด้านการผลิตประจำเดือนมิ.ย.ที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 126.81 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 13,535.43 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 16.08 จุด หรือ 1.07% ปิดที่ 1,519.43 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 29.07 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 2,632.30 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.38 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.84 พันล้านหุ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) ที่ระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมด้านการผลิตในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 56.0 จุด จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 55.0 จุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 55.0 จุด
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดัชนีไอเอสเอ็มด้านการผลิตเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้นสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และไม่ได้ทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีของสหรัฐที่ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 5% จากระดับของวันศุกร์ที่ 5.03% เนื่องจากนักลงทุนย้ายฐานการลงทุนเข้าไปในสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง หลังจากเกิดกระแสความวิตกกังวลที่มีต่อธุรกิจปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (subprime mortgage market) ในสหรัฐ
ขณะเดียวกันนักลงทุนขานรับรายงานการควบรวมกิจการของบริษัทหลายแห่ง โดยเฉพาะข่าวจากบริษัทบีซีอี อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของแคนาดา บริษัทด็อบสัน คอมมูนิเคชั่นส์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้จัดหาบริการไร้สายของแคนาดา และบริษัทเวอร์จิ้น มิเดีย อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมของอังกฤษ
นายสจ๊วต สเว็ตเซอร์ นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนจากเจพีมอร์แกน ไพรเวท แบงค์ กล่าวว่า "เห็นได้ชัดว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในระหว่างวันค่อนข้างผันผวนและวอลุ่มมีอยู่เพียงเบาบาง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล"
ทั้งนี้ หุ้นบีซีอีพุ่งขึ้น 4.4% หลังจากมีข่าวว่าบริษัทบีซีอีได้ตอบรับข้อเสนอเทคโอเวอร์จากบริษัทสื่อสารบางแห่ง ขณะที่หุ้นด็อบสันดีดขึ้น 11.8% และหุ้นเอทีแอนด์ดี ปรับตัวขึ้น 35 เซนต์ ปิดที่ 41.85 ดอลลาร์ หลังจากมีข่าวว่าเอทีแอนด์ที ตกลงซื้อกิจการบริษัทด็อบสัน มูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ