บลจ.ทหารไทยออกกองทุน 6M2 เน้นลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น มูลค่า 2 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 16, 2007 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดขายกองทุนเปิดทหารไทยพรีเมียร์ 6M2 (TMB-Premier Fund 6M2) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น อายุประมาณ 6 เดือน มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท โดยจะเปิดขายตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 24 กรกฎาคมศกนี้ 
หลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากสำหรับยอดขายกองทุนเปิดทหารไทยพรีเมียร์ 6M1 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถระดมเงินได้เต็มจำนวนโครงการประมาณ 5,600 ล้านบาท
สำหรับกองทุนเปิดทหารไทยพรีเมียร์ 6M2 นี้มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจะพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับความเสี่ยง โดยส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุสัญญา อายุของตราสาร หรือระยะเวลาการฝากเงิน ไม่เกิน 1 ปี เพื่อการสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงาน รอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน
นอกจากนี้กองทุนอาจทำสัญญาสวอปและ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และอาจมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีลักษณะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ซึ่งมีการจ่ายผลตอบแทนในการลงทุนโดยอ้างอิงกับสินค้าหรือตัวแปร เฉพาะเมื่อสินค้าหรือ ตัวแปร และโครงสร้างของตราสารประเภทนี้ต้องไม่ขัดกับวัตถุประสงค์และนโยบายของกองทุน
“เราเชื่อว่ากองทุนที่ออกใหม่นี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน เพราะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ ในขณะที่ภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังต่ำอยู่ในขณะนี้ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนที่เข้ามาซื้อกองทุนตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนตราสารหนี้ภายใต้การบริหารอยู่ที่ 103,318 ล้านบาทแล้ว “นางโชติกา กล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทยพรีเมียร์ 6M2 จะครบอายุโครงการในวันที่ 23 มกราคม 2551 ซึ่งบริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในอัตราไม่ต่ำกว่า 3.20 % ต่อปี เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง (ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์) อยู่ที่ 2.13% ต่อปี (หลังหักภาษี 15%)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ