บอร์ด THL หารือด่วนตัดสินยอมหรือไม่ยอมจ่ายค่าปรับกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานฯ

          แหล่งข่าวจาก บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้คณะกรรมการบริษัทอยู่ระหว่างหารือเป็นการเร่งด่วนกรณีที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่จะสั่งปรับ THL จำนวน 52.83 ล้านบาทเนื่องจากพิจารณาว่าการขนส่งทองของบริษัทไม่ได้ปฏิบัติตามกฎที่วางไว้ โดยคณะกรรมการฯ จะตัดสินว่าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับการจ่ายค่าปรับดังกล่าว ซึ่งหากไม่ยอมรับก็จะต้องดำเนินเรื่องผ่านกระบวนการชั้นศาล 
          "ตัวที่มีปัญหาเนื่องจากตอนที่เราไปขอทางกรมฯก็เข้าสู่กระบวนการปกติคือไปยื่นเรื่องขอขนทอง และทางกรมฯบอกว่าเหมือนกับกระบวนการไม่ครบ เช่น ต้องทำข้อ 1 2 3 4 แต่ทางกรมอนุญาตให้ทำถึงข้อ 2 แต่ข้อ 3 4 ไม่ได้ผ่านกระบวนการให้ครบและเข้าใจว่าระหว่างที่ทำงานอยู่มีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ประเด็นคือ อีกคนหนึ่งทำ เมื่ออดีตทำได้แล้ว และคนที่มาทำขั้นตอนที่ 2 3 4 ก็ทำไปตามปกติคิดว่าจบ พอทองออกไปแล้วไม่จบ จึงเจอปัญหาว่ากรมฯขอให้ THL ไปรับฟังข้อกล่าวหา"
          แหล่งข่าว คาดว่า คณะกรรมการบริษัทฯจะมีมติออกมาในเย็นวันนี้ โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการหารือต่อเนื่องจากเมื่อวาน โดยตัวแทนของบริษัทได้ไปรับฟังข้อกล่าวหาจากกรมฯ แล้วนำมารายงานที่ประชุมจากสิ่งที่ไปรับฟังมา เพื่อมาตกลงกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หลังจากได้รับทราบข้อมูลแล้วก็จะเปิดเผยข้อมูลให้ทราบภายในวันนี้
          "ถ้าไม่ยอมรับก็ได้เพราะเราไม่ผิด เพราะถ้าเราดำเนินการปกติอยู่แล้ว ทำไม case ก่อนๆ จึงผ่านไปได้ ทำไมพอ case นี้ถึงติดปัญหาอะไร เกิดอะไรขึ้น ซึ่งบริษัทไม่ทราบ ถ้าเป็นกระบวนการชั้นศาล ก็ต้องให้ศาลเป็นคนพิสูจน์หลักฐาน แต่ถ้าเรายินดีจ่ายค่าปรับคือถ้าเราผิดก็ต้องจ่ายค่าปรับ"แหล่งข่าว กล่าว  
*พร้อมแก้ไขงบการเงินงวดปี 49 และ ไตรมาส 1/50 ตามคำสั่ง ก.ล.ต.
          แหล่งข่าว กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)สั่งให้แก้ไขงบการเงิน งวดปี 49 และ ไตรมาส 1/50 ว่า เนื่องจากว่าก.ล.ต.เป็นผู้มีอำนาจ เป็นผู้ดูแลบริษัทจดทะเบียน เมื่อ ก.ล.ต.มีคำสั่ง บริษัทก็จำเป็นต้องแก้ไขงบการเงิน แต่ในรายละเอียดของการแก้ไขต้องพิจารณาในแต่ละข้อให้ละเอียดก่อน
          ทั้งนี้ ตามคำส้งของ ก.ล.ต.ในข้อ 1 ให้บริษัทบันทึกส่วนแบ่งของผลผลิตทองคำในปี 2549 ที่ต้องจ่ายรัฐจำนวน 4.1 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในปี 2549 และตัดรายการนี้ออกจากค่าใช้จ่ายของไตรมาส 1 ปี 2550 จำนวน 4 ล้านบาท แต่ก็จะไม่ทำให้ปี 49 มีผลขาดทุน เพราะบริษัทมีกำไรอยู่ 6 ล้านบาท หากบันทึกค่าจ่ายแล้ว ก็ยังเหลือกำไรอีก 2 ล้านบาท
          ข้อ 2 สั่งให้เปิดเผยข้อมูลค่าปรับจากการคืนเงินกู้ก่อนกำหนด ก็จะมีการเปิดเผยในงบการเงิน
          ข้อ 3 สั่งให้พิจารณาว่าจะบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายหรือไม่ หากบริษัทไม่เห็นด้วยก็สามารถคัดค้าน เพราะก.ล.ต.ไม่ได้บังคับให้ทำหรือไม่ทำ
          "ผู้สอบบัญชีก็ต้องแก้ไขตามที่ก.ล.ต.สั่งมา  แต่ถามว่าจะแก้ไขแบบไหนก็ต้องไปดูในรายละเอียด โดยจะต้องส่งภายในวันนี้" แหล่งข่าว กล่าว