นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก แต่บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปี 2563 ยังคงเติบโตตามเป้าหมาย เนื่องจากมีคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าแล้ว 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.63) ซึ่งปัจจุบันยังมีการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าปกติตามแผนงานเดิมที่วางไว้ ขณะที่ล่าสุดเริ่มเห็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะในประเทศจีนที่สามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ซึ่งหากทุกประเทศสามารถรับมือได้ สถานการณ์ปรับดีขึ้น เชื่อมั่นว่า ความต้องการใช้ทรัพยากร เพื่อฟื้นฟูประเทศจะมีจำนวนมาก ซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ
ล่าสุดบริษัทได้เดินหน้าหาลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติมจาก 39 รายในปี 2562 เป็น 50 รายในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางขาย และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เบื้องต้นจะเริ่มทำตลาดแผ่นปูรองนอนสัตว์ในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่า ภาพรวมทั้งปี 2563 ยอดขายจะเติบโตตามเป้าหมาย 2.1 หมื่นล้านบาท
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัท แต่ยังคงต้องเฝ้าจับตาปัญหาภัยแล้ง ที่อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณยางพาราในช่วงไตรมาส 3 ให้ปรับลดลง เบื้องต้นประเมินว่า หากสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน อาจส่งผลกระทบให้ปริมาณยางพาราในตลาดลดลงราว 15% ซึ่งเบื้องต้นบริษัทได้เตรียมแผนรับมือด้วยการกระจายจุดรับซื้อ-ขายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มเติมแล้ว
"2 ไตรมาส ปี 63 ยังไม่มีผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะเรามีการซื้อ-ขายล่วงหน้าไว้แล้ว 5-6 เดือน ปัจจุบันก็ยังมีการส่งของให้ลูกค้าตามออร์เดอร์ซื้อ-ขายกันปกติ ตอนนี้มียอดขายรอส่งมอบถึงสิ้นไตรมาส 2 แล้ว แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการหาลูกค้ารายใหม่ ๆ ขยายช่องทางขาย รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งพฤษภาคมนี้จะเริ่มทำตลาดแผ่นปูรองนอนสัตว์ ก็จะรับรู้รายได้ทันที ทั้งหมดก็เพื่อต่อยอดสร้างการเติบโตที่ต่อเนื่อง"นายชูวิทย์ กล่าว