TKSคาดเลือกตั้งส่งผลธุรกิจการพิมพ์โตดีดันรายได้ปี 50โต 5-8%แม้ไอทีชะลอ

          นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี(TKS) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้ารายได้ในปีนี้โต 5-8% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1 หมื่นรายได้ ถึงแม้ในครึ่งปีแรกการเติบโตของธุรกิจไอทีจะชะลอตัวเหลือ 5% จากเดิมที่เคยเติบโตในระดับ 10% แต่การเติบโตของธุรกิจการพิมพ์ในปีนี้ยังไปได้ดีถึง 15% สูงกว่าที่คาดไว้เดิมที่ 10% ซึ่งจะเข้ามาทดแทนได้ โดยเฉพาะในครึ่งปีหลังที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจการพิมพ์
          นายสุพันธ์ คาดว่า การหาเสียงเลือกตั้งจะทำให้ยอดการสั่งพิมพ์สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น และช่วงไตรมาส 4/50 ใกล้สิ้นปีเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยปกติก็จะมียอดสั่งพิมพ์ปฏิทินและบัตรอวยพรด้วย ซึ่งการที่ครึ่งปีหลังการพิมพ์เติบโตจะทำให้สัดส่วนรายได้จากการพิมพ์เพิ่มขึ้น 12-13% ของรายได้รวม จากปีก่อน 10-11% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากไอที
          "เราเชื่อว่าในครึ่งปีหลังจะเห็นการเติบโตอย่างชัดเจน โดยเฉพาะหลังจากเลือกตั้ง ทั้งในส่วนของการพิมพ์ที่จะเติบโตมาก ซึ่งในส่วนของบริษัทกำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 100% เต็ม หรือ 600 ตัน/เดือน จากปัจจุบันที่ใช้กำลังผลิต 70% เพราะมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการต่อสู้รุนแรงมากกว่าปกติ ทำให้มีการใช้เงินในการเลือกตั้งมากขึ้น 
          ส่วนไอทีหวังว่าเมื่อมีการเลือกตั้งเสร็จสิ้นได้รัฐบาลใหม่ก็จะมีการเบิกงบใช้จ่าย ทำให้มีการสั่งซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์มากขึ้น"นายสุพันธ์ กล่าว
          ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปีนี้จะใกล้เคียงกับ 1% จากรายได้ เนื่องจากยังมีการแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจากการย้ายโรงงาน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) มองว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงปีก่อนที่ระดับ 10%
          นายสุพันธ์ กล่าวว่า สำหรับการนำบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับที่ปรึกษาทางการเงิน แต่เชื่อว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4/50 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้าในกลุ่มสื่อสารและไอที
          และหากซินเน็คฯ เข้าตลาดแล้ว TKS จะย้ายไปหมวดการพิมพ์จากเดิมที่อยู่หมวดไอที
          ปัจจุบัน ซินเน็คฯ มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท มี TKS ถือหุ้น 50% และอีก 49 ถือหุ้นโดยไต้หวัน อีก 1% เป็นบุคคลอื่น