นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน และตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของ MTC โดยยังคงมั่นใจว่าสินเชื่อในปี 63 จะเติบโต 20-25% และสามารถคุมหนี้ NPL ไม่ให้เกิน 2% ตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี
บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการชำระหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดไถ่ถอนในปีนี้ และเพียงพอสำหรับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะให้บริษัทฯช่วยเหลือลูกค้าในการลดการชำระค่างวดลง และรีไฟแนนซ์ให้ลูกค้าได้ แต่ถ้าเป็นลูกค้าที่มีประวัติค้างชำระเกิน 3 เดือน ทางบริษัทฯก็ยังคงตั้งสำรองหนี้เสียไว้ตามเกณฑ์มาตรฐานบัญชี TFRS 9 ทุกประการ โดยไม่มีข้อยกเว้น
อีกทั้งทางธนาคารแห่งประเทศไทยมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ให้กลุ่มนอนแบงก์กู้ ทำให้เสริมสภาพคล่องและช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยโควิด-19 วงเงิน 80,000 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ให้ผ่านวิกฤตโลกครั้งนี้ไปได้ โดยไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯที่มีความแข็งแกร่ง และขอให้มั่นว่า MTC จะเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ได้พิจารณาเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 ในประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเริ่มกระจายในวงกว้างมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐได้ขอความร่วมมือเอกชนในหลายช่องทางให้พิจารณาความจำเป็นในการจัดกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นและกระจายสู่บุคคลทั่วไปได้โดยง่าย ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ได้คำนึงถึงประเด็นต่างๆ อย่างรอบคอบ และมีมติอนุมัติให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ออกไปไม่มีกำหนด (เดิมกำหนดไว้วันที่ 21 เมษายน 2563) ซึ่งการเลื่อนการประชุมดังกล่าว จะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแทนการจ่ายเงินปันผลประจำปี จากงวดผลการดำเนินงานปี 2562 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล(Record Date) ในวันที่ 22 เมษายน 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563