เภสัชกรหญิง อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนพิริยะ (TNP) เปิดเผยว่า ภาพรวมร้านธนพิริยะยังสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ เนื่องจากเป็นร้านค้าปลีกท้องถิ่นไทยคู่ชุมชนที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 มีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอยจำนวนมาก สนับสนุนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/63 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
อีกทั้ง กลยุทธ์การขยายสาขายังเป็นไปตามที่วางไว้ โดยล่าสุดเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 1 สาขา ที่อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย นับเป็นสาขาแรกของปีนี้และเป็นสาขาที่ 29 ของธนพิริยะ พร้อมเปิดให้บริการสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเป้าหมายในปี 63 ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่จำนวน 5 สาขา ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 63 จะมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 33 สาขา จากสิ้นปี 62 มี 28 สาขา ครอบคลุม 3 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย 23 สาขา จังหวัดพะเยา 4 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 1 สาขา ตอกย้ำความสำเร็จของร้านค้าท้องถิ่นไทยที่ได้รับความไว้วางใจต่อลูกค้ามาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ "ร้านธนพิริยะ" ทุกสาขามีมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานประจำสาขาทุกสาขาเป็นหลัก มีจุดคัดกรองให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ พร้อมทั้ง ทำความสะอาดร้านค้า และอุปกรณ์ภายในร้านทั้งหมดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้อย่างไร้กังวล ในส่วนของสต๊อกสินค้าสำหรับการอุปโภคบริโภค บริษัทฯ เตรียมไว้เพียงพอ ต่อความต้องการของลูกค้า จึงมั่นใจว่า แม้ในยามวิกฤติร้านธนพิริยะก็ยังยืนหยัดในการเติบโต พร้อมช่วยเหลือชุมชนและสังคมได้
นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ TNP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2563 มีมติอนุมัติเลื่อนการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากกำหนดการเดิมวันที่ 21 เมษายน 2563 เวลา 14.00 น.เพื่อเป็นการควบคุม ป้องกัน และลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับเป็นการปฎิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และภาครัฐ รวมทั้ง มีมติอนุมัติการยกเลิกวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 (Record date) ที่ได้กำหนดไว้ในวันที่ 9 มีนาคม 2563 โดยการเลื่อนประชุมดังกล่าว ไม่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง (วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562) ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 24,000,000 บาท โดยคงกำหนดวันรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 9 มีนาคม 2563 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ตามกำหนดการเดิม ทั้งนี้ คณะกรรมการจะไม่เสนอจ่ายปันผลประจำปี 2562 อีก โดยจะทำการรายงานผลต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อรับทราบการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว
ด้วยความห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ถือหุ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงต้องให้ความร่วมมือและพร้อมปฏิบัติตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และเมื่อสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติและมีความเหมาะสมแล้ว ทางบริษัทจะพิจารณากำหนดวันประชุม และระเบียบวาระการประชุมขึ้นใหม่ และจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นได้ทราบต่อไป