ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกดาวโจนส์ร่วงหนัก ฉุดฟุตซี่ปิดดิ่งลง 81.8 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) เพราะได้รับผลกระทบจากดัชนีดาวโจนส์และสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลง ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (subprime mortgage market) และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในสหรัฐ
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 81.8 จุด ปิดที่ 6,630.9 จุด 
          นายเดวิด โจนส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับอิทธิพลจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งนอกเหนือจากความกังวลเรื่องธุรกิจปล่อยกู้แบบซับไพร์มแล้ว ตลาดยังได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทโฮม ดีโปท์ และบริษัทเซียร์ส โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการ
          "ข่าวการปรับลดคาดการณ์ของบริษัทโฮม ดีโปท์ ได้เขย่าตลาดหุ้นในสหรับ อังกฤษ และในยุโรป นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ในตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลง 3-4% เนื่องจากแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปรับฐานลง เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังเคลื่อนไหวในระดับสูง" นายโจนส์กล่าว
          ทั้งนี้ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดขึ้น 60 เพนซ์ ปิดที่ 1,483 เพนซ์ หุ้นลอนมินพุ่งขึ้น 157 เพนซ์ ปิดที่ 4,154 เพนซ์ ส่วนหุ้นอันโตฟากัสต้าดิ่งลง 16-1/2 เพนซ์ ปิดที่ 665-1/4 เพนซ์ หุ้นแองโกลอเมริกา ร่วงลง 120 เพนซ์ ปิดที่ 3,225 เพนซ์ และหุ้นรีโอตินโต ปรับตัวลง 115 เพนซ์ ปิดที่ 3,905 เพนซ์
          หุ้นโวลส์ลีย์ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างจำพวกท่อ ร่วงลง 2.2% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง หลังจากบริษัทโฮม ดีโปท์ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรปี 2550 เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐอ่อนแอ  ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั้น หุ้นแฮมเมอร์สันและหุ้นลิเบอร์ตี อินเตอร์เนชั่นแนลร่วงลง 1.1% ขณะที่หุ้นแลนด์ ซีเคียวริตีส์ กรุ๊ป รูดลง 1.4%
           ส่วนหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ขยับขึ้น 9 เพนซ์ ปิดที่ 641-1/2 เพนซ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 2.0% และยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปประกาศเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 'buy' จากเดิมที่ระดับ 'hold'