ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) จากแรงขายที่ส่งเข้าทุบหุ้นกลุ่มน้ำมัน หลังจากนักวิเคราะห์ของวาณิชธนกิจบางแห่งได้ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบริษัทน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกได้นั้น ได้ช่วยพยุงตลาดหุ้นลอนดอนให้สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 15.80 จุด ปิดที่ 6,614.1 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.81 พันล้านหุ้น
นายจิม วู้ด-สมิธ นักวิเคราะห์จากบริษัทวิลเลียมส์ เดอ โบร์ กล่าวว่า "นอกเหนือจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มน้ำมันแล้ว ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกที่ชะลอตัวลง แม้ผมมองว่าตลาดหุ้นลอนดอนไม่ได้อยู่ในช่วงขาลง แต่ก็คาดว่าดัชนี FTSE 100 จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 6,500-6,700 จุด ตลอดฤดูร้อนนี้"
นายวู้ด-สมิธกล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันดิบยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนั้นไม่ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมันในนิวยอร์กให้ดีดตัวขึ้นได้ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 29 เพนซ์ ปิดที่ 2,107 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ 'sell' จากเดิมที่ระดับ 'neutral' และหุ้นบีพีปรับตัวลง 6-1/2 เพนซ์ ปิดที่ 605 เพนซ์ หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดน้ำหนักความ่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ 'neutral' จากเดิมที่ระดับ 'buy'
ส่วนหุ้นบริษัทคาร์นิวัล ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเรือสำราญรายใหญ่ของอังกฤษ ปรับตัวลง 17 เพนซ์ ปิดที่ 2,258 เพนซ์ เพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น แม้นักวิเคราะห์ของคอลลิน สจ๊วต ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นคาร์นิวัลขึ้นสู่ระดับ 'buy' ก็ตาม
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบยังส่งผลให้หุ้นสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ปรับตัวลง 7-1/4 เพนซ์ ปิดที่ 418-1/2 เพนซ์ ขณะที่หุ้นสายการบินเจ็ท แอร์ไลน์ รูดลง 12 เพนซ์ ปิดที่ 501 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--