ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ.ไมด้า แอสเซ็ท (MIDA) เป็นระดับ "BB+" จากเดิมที่ระดับ "BBB-" และประกาศ "เครดิตพินิจ" แนวโน้ม "Negative" หรือ "ลบ" ให้แก่อันดับเครดิตดังกล่าว
โดยการทบทวนผลอันดับเครดิตในครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความเสี่ยงในการต่ออายุหุ้นกู้ของบริษัทในภาวะที่สภาพคล่องของตลาดตราสารหนี้มีปัญหาและความยากลำบากของบริษัทในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้อื่น ๆ นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 50% ของรายได้ของบริษัทนั้นก็คาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ด้วย อย่างไรก็ตาม ธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อของบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดดังกล่าวมากนัก
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 บริษัทมีหนี้สินทางการเงินอยู่ที่จำนวน 4.9 พันล้านบาทและมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 0.96 เท่าซึ่งยังคงต่ำกว่าเงื่อนไขทางการเงินของหุ้นกู้ที่กำหนดให้อยู่ในระดับ 2 เท่าอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในปี 2563 จำนวน 2.28 พันล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 0.29 พันล้านบาท เงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 0.34 พันล้านบาท และหุ้นกู้อีกจำนวน 1.62 พันล้านบาท
ณ เดือนมีนาคม 2563 บริษัทมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในช่วงที่เหลือของปี 2563 ดังนี้คือ หุ้นกู้มูลค่า 612.4 ล้านบาทที่จะครบกำหนดในวันที่ 24 เมษายน 2563 หุ้นกู้มูลค่า160 ล้านบาทที่จะครบกำหนดในวันที่ 27 กันยายน 2563 และหุ้นกู้มูลค่า 770 ล้านบาทที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ แผนของบริษัทที่จะออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อมาทดแทนหุ้นกู้ดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นไปได้ยากมากในระยะเวลาอันใกล้นี้เนื่องจากความวิตกกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ลดทอนความต้องการลงทุนของนักลงทุนลง ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่มาทดแทนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนและไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนอื่น ๆ ได้ จึงมีแนวโน้มว่าทริสเรทติ้งอาจจะลดอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทลงอีกหลายขั้น