นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บมจ.พริมา มารีน (PRM) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัท เตรียมซื้อเรือขนาดใหญ่เข้าเพิ่ม 1 ลำ ซึ่งมีปริมาณบรรจุของเหลวราว 300 ล้านลิตร หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย เพื่อรองรับกับความต้องการใช้เรือที่คาดจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งปัจจุบันก็มีการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่หลายรายที่สนใจเซ็นสัญญาเช่าเรือของ PRM
"ถ้าหากมีดีมานด์เข้ามาเพิ่ม เราก็จะลงทุนเพิ่มเรือขนาดใหญ่อีก 1 ลำ แต่ด้วยปัจจุบันโควิด-19 ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง เราจำเป็นต้องรอให้สถานการณ์คลี่คลายลงก่อน เราถึงจะลงทุนเพิ่มเติมได้ ประกอบกับเราก็มองว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงไปมากในช่วงที่ผ่านมา พอทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติราคาน้ำมันก็จะขยับขึ้น ทำให้ความต้องการใช้เรือเพื่อกักเก็บน้ำมันน่าจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย"นายวิริทธิ์พ กล่าว
ทั้งนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/63 บริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างน้อย โดยความต้องการใช้เรือธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป (ธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บ FSU) ยังสูง จากการกักเก็บน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันมีการใช้เรือเต็ม 100% ขณะที่ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป และปิโตรเคมีเหลว (ธุรกิจเรือขนส่งฯ) ได้รับผลกระทบเล็กน้อย เนื่องจากปริมาณการขนส่งในประเทศลดลงตามความต้องการน้ำมันอากาศยานลดลง ทำให้ปริมาณการขนส่งหายไปประมาณ 10% ของปริมาณการขนส่งทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ โดยนำเรือขนส่งน้ำมันอากาศยานมาให้บริการขนส่งน้ำมันอื่นๆ เช่น น้ำมันเบนซิน และดีเซล โดยขนส่งในระยะทางสั้นๆ เช่น ศรีราชา และสมุทรสาคร เป็นต้น เพื่อชดเชยกับปริมาณการขนส่งที่หายไป และลดการเช่าเรือลงเพื่อรักษาประสิทธิภาพการใช้เรือ และรักษาความสามารถในการทำกำไรไม่ให้ลดลง
ขณะที่การขนส่งระหว่างประเทศ เนื่องด้วยราคาน้ำมันปรับตัวลดลงส่งผลทำให้มีการกักตุนน้ำมันกันค่อนข้างมาก ซึ่งบริษัทก็เตรียมพิจารณาปรับขึ้นราคาให้บริการเรือขนส่ง ส่วนธุรกิจเรือขนส่งและที่พักอาศัยสำหรับพนักงานประจำแท่นขุดเจาะน้ำมันปิโตรเลียม (Accommodation Work Barge) ปัจจุบันก็มีการเปิดให้บริการแล้ว ซึ่ง ณ สิ้นปี 62 กลุ่มบริษัทมีเรือที่พักให้บริการจำนวน 1 ลำได้แก่ เรือนวธานีที่สามารถรองรับพนักงานได้จำนวน 300 คน
นายวิริทธิ์พล กล่าวว่า แม้ธุรกิจของบริษัทฯ จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่มาก แต่บริษัทปรับแผนการดำเนินงานเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ยังเตรียมทบทวนผลการดำเนินงานในปีนี้อีกครั้งหลังโควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งยังยืนยันว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตดีกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน และจะพยายามรักษาระดับความสามารถของการทำกำไร จากการลดต้นทุนต่างๆ ด้วย