นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) เปิดเผยว่า ปีนี้ซินเน็คฯ เน้นการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ "SYNNEX as a service" ผ่าน 3 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ "SYNNEX Services plus" การบริการทั้งก่อนและหลังการขายที่ดูแลสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมพิเศษให้กับผู้บริโภค "SYNNEX Logistic plus" ดูแลด้านการบริหารคลังสินค้า การจัดส่งสินค้า และการขนส่ง และ "SYNNEX Financial plus" การบริการด้านวงเงิน เครดิตเทอม รวมถึงบริการสินเชื่อโปรเจ็คใหม่ ๆ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญในการต่อยอดแผนการตลาดกับคู่ค้าให้เติบโตไปพร้อมกัน เพื่อเป็นการยกระดับสร้างความเชื่อมั่นภายใต้ตราสัญลักษณ์ Trusted by SYNNEX อย่างครอบคลุมรอบด้านให้มีความพรีเมียมมากขึ้น
อีกทั้ง มาตรการของรัฐบาลในการปิดห้างสรรพสินค้า และลดการรวมกลุ่มที่อาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคระบาด ซินเน็คฯ ได้ปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ และการบริการ ด้วยการส่งแคมเปญใหญ่ในคอนเซ็ปท์ "WORK & LIFE From Home Solution" รวมผลิตภัณฑ์ไอทีโซลูชัน และแกดเจ็ตสำหรับ Work from Home ออกสู่ตลาด เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์การทำงานและอยู่บ้านให้เป็นเรื่องง่าย ผ่อนคลายขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในครั้งนี้โดยเฉพาะ เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากเล็งเห็นว่า มีความต้องการใช้สินค้าไอทีเพื่อรองรับมาตรการ Work from Home จำนวนมาก
สำหรับสินค้าที่ซินเน็คฯ จัดจำหน่าย ได้แก่ ระบบกล้องวงจรปิดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ชุดอุปกรณ์ และซอฟต์แวร์สำหรับวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ชุดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์ในการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไปจนถึงโซลูชันในกลุ่มผู้รักสุขภาพการออกกำลังกาย และเกมมิ่ง เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมากบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการได้ผ่านตัวแทนจำหน่ายซินเน็คฯ ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ซินเน็คฯ เพิ่มมาตรฐานการให้บริการซึ่งเป็นหัวใจของธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจแม้ในสถานการณ์โควิด-19 สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าไอทีภายใต้ตราสัญลักษณ์ Trusted by Synnex สามารถใช้บริการที่ศูนย์บริการลูกค้าซินเน็คฯ ในสาขาที่เปิดให้บริการ ได้แก่ ฟรีบริการผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือจากระยะไกล (Synnex Remote Service) ฟรีบริการตรวจสอบสถานะงานซ่อม และรับประกันสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง บริการเปลี่ยน หรือรับ-ส่ง สินค้าถึงบ้าน และสามารถส่งสินค้าซ่อมทางไปรษณีย์
"ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซินเน็คฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราทำงานร่วมกับลูกค้าของเราอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการกับลูกค้าของเรา แม้ในช่วงไตรมาสแรกซินเน็คฯ ได้รับผลกระทบในแง่ของอุปทานของสินค้าบางแบรนด์ในวงจำกัด และมีการบริหารจัดการสต็อกสินค้าเพื่อให้มีสินค้าจำหน่ายอย่างเพียงพอ จึงมองว่าภายหลังสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย จะมีความต้องการด้านสินค้าไอทีเพิ่มมากขึ้นจากทั้งภาครัฐบาลและเอกชน เร่งลงทุนนำไอทีเข้ามาเสริมธุรกิจ รวมถึงรับโอกาสจากการเข้าสู่ยุค 5G โดยซินเน็คฯ เป็นผู้นำสินค้าไอทีที่มีความหลากหลายที่สุดและแข็งแกร่งในประเทศ โดยบริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับวิกฤติเป็นโอกาส และสร้างผลประกอบการที่เติบโตในระยะยาว" นางสาวสุธิดา กล่าว