(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์พักฐานหลังราคาน้ำมันร่วงแรง- IMF ปรับลดคาดการณ์ศก.โลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 15, 2020 09:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในลักษณะพักฐาน เนื่องจากราคาน้ำมันร่วงราว 10% กังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลง และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้เหลือ -3% และคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ -6.7% ซึ่งแย่สุดในภูมิภาคเอเชีย

นอกจากนี้นักลงทุนคงจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลประกอบการกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 1/63 ด้วย ซึ่งนักวิเคราะห์หลายสำนักต่างคาดการณ์ที่ไม่เหมือนกัน จากตัวแปรมาตรฐานบัญชีใหม่ และการตั้งสำรองฯ จึงทำให้งบฯกลุ่มแบงก์ยังมีความไม่แน่นอน

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ คือ ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ

พร้อมให้แนวรับ 1,240 ถัดไป 1,235-1,230 จุด ส่วนแนวต้าน 1,265-1,270 จุด .

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (14 เม.ย.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,949.76 จุด เพิ่มขึ้น 558.99 จุด (+2.39%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,846.06 จุด เพิ่มขึ้น 84.43 จุด (+3.06%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,515.74 จุด เพิ่มขึ้น 323.32 จุด (+3.95%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 49.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.62 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 64.46 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 33.83 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.34 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.96 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 43.88 จุด

ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเลือกตั้งทั่วไป

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 เม.ย.63) 1,256.35 จุด เพิ่มขึ้น 19.57 จุด (+1.58%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,184.72 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 เม.ย.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 เม.ย.63) ปิดที่ 20.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ 10.3%
  • เงินบาทเปิด 32.65 แข็งค่าจากวานนี้หลังดอลล์อ่อน ตลาดรอดูยอดค้าปลีกสหรัฐฯคืนนี้
  • สมาคมธนาคารไทย ประเมิน "โควิด-19" ส่อทำเศรษฐกิจเสียหาย 1.3 ล้านล้านบาท หรือ 7.7% ของจีดีพี ชมรัฐออกมาตรการดูแล "เร็ว-แรง" มั่นใจช่วยบรรเทาผลกระทบได้ ย้ำการรักษาเสถียรภาพตลาดเงินมีความสำคัญ ห่วงสถานการณ์ยืดเยื้อส่อกระทบเศรษฐกิจแรงกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง ด้าน "เอสแอนด์พี" ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยลงสู่ "เสถียรภาพ" จาก "เชิงบวก" ผลจากโควิดระบาดหนัก ประเมิน "จีดีพี" ปีนี้ ส่อติดลบ 2.5% ก่อนกลับมาขยายตัว 7.6% ในปีหน้า
  • สมาคมค้าทองคำ ฟันธงแนวโน้มราคาทองยังขาขึ้น คาดมีโอกาสเห็น "นิวไฮ" รอบใหม่ หลัง 8 ปีก่อนทำสถิติสูงสุดที่ 27,100 บาทต่อบาททองคำ วอนประชาชนอย่าเพิ่งรีบนำมาขาย เหตุร้านค้าหลายแห่งเริ่มขาดสภาพคล่องหนัก บางร้านส่อหยุดให้บริการชั่วคราวหวังลดปัญหา คนแห่เทขาย ไร้คนซื้อ ด้าน กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง ลั่นมีสภาพคล่องเพียงพอ พร้อมรอรับซื้อไม่อั้น เล็งกลับมาเปิดครบทั้ง 4 สาขา หวังให้บริการลูกค้าเพียงพอ
  • สนพ.-'มนูญ'มองตรงกันน้ำมันยังไม่เป็นขาขึ้น แม้โอเปก-พันธมิตรบรรลุ ข้อตกลงลดกำลังผลิต แต่อุปทานยังล้นตลาดโลก เหตุเศรษฐกิจยังแย่ ระยะสั้นน้ำมันในประเทศลงอีก 50-60 สตางค์/ลิตร พ.ค.อาจเห็นราคาขายปลีกในประเทศปรับขึ้นลิตรละ 1 บาท
  • คลัง ปัดรัวข่าวขายหุ้นการบินไทยทิ้งให้ ปตท.-ทอท.-ออมสิน ออกโรงยันมีแผนชัดรัฐจะดำเนินการฟื้นฟูด้วยตัวเองทั้งหมด ยอมรับอยู่ระหว่างศึกษาออกหุ้นกู้-เพิ่มทุน พร้อมประกาศแผนฟื้นฟูเจ้าจำปีต้องแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ หวังสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่าย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • VGI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 8 บาท สื่อโฆษณานอกบ้านของ VGI ทั้งบนรถไฟฟ้า BTS, ในอาคารออฟฟิศ, Online digital และสื่อกลางแจ้งอื่นๆ เป็นธุรกิจที่ฟื้นได้เร็วหลังสิ้นสุดมาตรการ lockdown และสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ด้านกำไร Q4/63 (ม.ค.-มี.ค.63) ถูกกระทบไม่มาก (คาด 302 ล้านบาท -24% Q-Q, +12% Y-Y) ทำให้ทั้งปี (สิ้นสุด มี.ค.63) โตได้ 24% เป็น 1.36 พันล้านบาท แต่คาดกำไรปี 2564 (สิ้นสุด มี.ค.64) -21% (ราคาหุ้น -40% ในช่วงก่อนหน้า) ก่อนจะฟื้น +46% ปีถัดไป
  • BAM (กรุงศรี)"ซื้อ"เป้า IAA Consensus 27 บาท แนวโน้มเศรษฐกิจไม่ดี NPLs มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น เป็นโอกาสของผู้ประกอบการติดตามหนี้และบริหารสินทรัพย์ จากการเข้าซื้อ NPLs ในราคาที่ถูกลง (แย่งกันขาย) หนุนพอร์ตลูกหนี้ในมือเพิ่มขึ้นรอออกดอกผลเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว นอกจากนี้ BAM ยังมีปัจจัยหนุนในระยะสั้นจากการเตรียมนำทรัพย์ออกประมูลขายในช่วง Q2/63 หนุนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นโดดเด่น
  • PRM (กสิกรไทย)"ซื้อ"เป้า 11.3 บาท โดยคาดว่าผลกระทบจาก โควิด-19 จำกัด พร้อมคาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 1/63 ที่ 313 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 11% QoQ และ 34% YoY โดยคาดว่าในไตรมาส 2 กำไรหลักจะโตต่อจากไตรมาส 1 ที่ 346 ล้านเหรียญ จากการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าเช่า FSU

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ